เจ้าของร้านมือถือ หัวร้อนโชว์ห้าว ชักปืนขู่-ชี้ใส่หน้า รองสารวัตร ใส่ชุดบ้านไปซื้อมันเดือย ไม่พอใจจอดรถขวางหน้าร้าน ซีดรู้ว่าเป็นตำรวจ หน้าถอดสี ยกมือไว้ขอโทษ
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 21 เม.ย.2567 ร.ต.ต.ธนกฤต สิริกุลวิตรา อายุ 55 ปี รองสารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา แต่งกายด้วยชุดบ้านธรรมดาและยังใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่ด้วย ขับรถกระบะไปซื้อมันเดือย ตั้งอยู่หน้าร้านมือถือแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา
โดยจอดรถล้ำเข้าไปหน้าร้านมือถือเล็กน้อย ระหว่างที่รอแม่ค้าทำมันเดือย ที่สั่งไว้ 8 ถุง แม่ค้าทำเสร็จแล้ว 5 ถุง เหลืออีก 3 ถุง โดยติดเครื่องจอดรถรอที่หน้าร้านมือถือ ปรากฏว่า นายสักรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี เจ้าของร้านมือถือไม่พอใจที่มีรถกระบะมาจอดขวางหน้าบ้าน
ได้พูดจาเสียงดังไม่ให้จอดขวางหน้าร้าน ร.ต.ต.ธนกฤตฯ ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจและบอกให้พูดจาดีๆไม่ต้องขึ้นเสียง ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเดินเข้าไปหยิบอาวุธปืนที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานออกมาและเดินไปที่เคาท์เตอร์หน้าร้านโชว์ปืนให้ดูและยังชักปืนชี้ใส่หน้า ร.ต.ต.ธนกฤต พูดท้าทายถามว่า “พาปืนมาด้วยมั้ย “แล้วเดินเอาปืนไปเก็บไว้ในลิ้นชัก
รายงานว่า ร.ต.ต.ธนกฤต เห็นว่าไม่ปลอดภัยเพราะอีกฝ่ายมีปืนและขณะนั้นไม่ได้พกปืนติดตัวเพราะอยู่นอกเวลางาน จึงแจ้ง พ.ต.ต.ธีรพงศ์ วิชิต สว.สส.สภ.หาดใหญ่ ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม.1กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด 9 มม.13 นัด ที่อยู่ในโต๊ะทำงาน
พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบพฤติกรรมของนายสักรินทร์ ที่ชักอาวุธปืนออกมาโชว์และชี้ปืนใส่หน้า ร.ต.ต.ธนกฤต จริงซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ตลอด
จึงคุมตัว นายสักรินทร์ ไปสอบสวนที่ชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่และเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นตำรวจถึงกับหน้าถอดสีและยกมือไหว้ขอโทษบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนตลอดชีวิตจบเรื่องนี้แล้วจะขายปืนเพราะมีแต่เรื่อง และยอมรับว่าเอาปืนออกมาโชว์จริงเพราะมีปากเสียงกับ ร.ต.ต.ธนกฤต ที่ขับรถไปขวางหน้าร้าน
ด้าน ร.ต.ต.ธนกฤต บอกว่า ตอนนั้นตกใจเหมือนกันเพราะอีกฝ่ายมีปืนและได้พูดเตือนสติอารมณ์ นายสักรินทร์ ว่าอย่าทำแบบนี้อีก แม้อีกฝ่ายจะขอโทษแต่ในทางคดี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับ นายสักรินทร์
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญโดยใช้อาวุธ และข้อหา พรบ.อาวุธปืน 1 ข้อหา
ในส่วนของการดำเนินการทางคดีนั้นพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายแม้ว่าผู้เสียหายในคดีนี้จะเป็นตำรวจก็ตาม ไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใดว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
