เจ้าของสวน ขับกระบะบรรทุกน้ำจะไปรด ต้นทุเรียน รถเสียหลักพลิกตกเหวหงายท้องล้อชี้ฟ้า จมน้ำเสียชีวิต ช็อกภาพจากกล้องหน้ารถ เผยนาทีสลด
วันที่ 29 เม.ย.2567 พ.ต.ท.สมชาย บุญเกิด สารวัตร(สอบสวน) สภ.นาสัก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำตกเขา ม.7 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสายชล เขตเขาทะลุ
ที่เกิดเหตุอยู่ในถนนซอยห้วยใหญ่ ห่างจากถนนสายเขาค่าย(ชุมพร)-ละอุ่น(ระนอง) ประมาณ 2 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นลูกรัง กว้าง 5 เมตร โดยถนนดังกล่าวชาวบ้านช่วยกันเทคอนกรีตทำเป็นร่องเฉพาะรองรับล้อเท่านั้น เนื่องจากถนนสายนี้สภาพต้องขับขึ้นที่สูงชัน ชาวบ้านจึงช่วยกันทำเพื่อป้องกันไม่ให้รถที่วิ่งเข้ามาในสวน จะได้ไม่ลื่นเวลามีฝนตกลงมา
โดยริมถนนด้านขวามือ เป็นเหวลึก ประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบร่องรอยต้นไม้ขนาดเล็กใหญ่ข้างทางพังราบเป็นแนวยาวลงไป และพบรถกระบะตอนครึ่ง สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บล3103 ชุมพร สภาพพลิกหงายท้องอยู่ในน้ำ ลึกกว่า 3 เมตร ข้างมีแท็งก์น้ำ ขนาด 2,000 ลิตร และอุปกรณ์ต่าง ๆ ลอยเกลื่อนอยู่ในน้ำ
ส่วนคนขับรถชื่อ นายจรงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ ได้ช่วยกันนำตัวออกมาจากรถ สภาพหมดสติและทราบว่าหลังจากที่นำออกจากรถมาได้ ก็พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา
จากการสอบถาม นายสุทิน เชื้อวงษ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสายชล เขตเขาทะลุ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เกิดเหตุรถพลิกคว่ำตกเหวแล้วจมในน้ำ บริเวณถนนซอยห้วยใหญ่ จึงนำกำลังไปยังที่เกิดเหตุ
นายสุทิน กล่าวต่อว่า แต่เมื่อไปถึงพบชาวบ้านหลายคนได้นำตัวผู้ที่ติดอยู่ภายในออกมาจากรถแล้ว และกำลังช่วยกันทำปั๊มหัวใจช่วยชีวิตแต่ก็ไม่สำเร็จ ตนจึงได้นำร่างส่ง โรงพยาบาลสวี เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพอย่างละเอียดต่อไป
ด้าน นางสีนวล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของผู้ตาย กล่าวว่า ตั้งแต่ อ.สวี จ.ชุมพร เกิดวิกฤตฝนขาดช่วงมานานกว่า 2 เดือน ทำให้ในพื้นที่ซึ่งมีอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ต้องนำรถกระบะที่มีอยู่ใส่แท็งก์น้ำ แล้วไปดูดน้ำตามแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่มี เพื่อจะนำมารดต้นทุเรียนของสวนตนเอง
นางสีนวล กล่าวต่อว่า และเช่นเดียวกับสวนทุเรียนของตน ทุกวันพ่อและลูก ๆ ก็จะระดมรถออกไปบรรทุกน้ำมาใส่สระในสวนเพื่อเก็บไว้รดทุเรียนในช่วงค่ำ สำหรับพ่อนั้น ทุกวันในช่วงเช้าก็จะขับรถออกจากสวนเพื่อไปบรรทุกน้ำมาใส่สระ
นางสีนวล กล่าวอีกว่า โดยวันนี้เพิ่งจะได้เพียงเที่ยวเดียวเอง และพ่อเมื่อถ่ายน้ำลงสระแล้ว ได้ออกไปเพื่อจะบรรทุกน้ำอีกเที่ยว แต่เที่ยวนี้ผิดสังเกตมากเพราะพ่อไปนานมาก จนกระทั่งญาติโทรศัพท์มาบอกว่ารถพ่อเสียหลักตกเหว จมน้ำและเสียชีวิตแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยานหลักฐานการเกิดเหตุจากกล้องหน้ารถของญาติผู้ตาย ซึ่งได้ขับรถกระบะไปบรรทุกน้ำมาเช่นกัน และได้ขับตามหลังรถผู้ตายมาห่างไม่มากนัก พบว่าขณะที่รถของผู้ตายขับรถซึ่งบรรทุกน้ำมาเต็มแท็งก์ 2,000 ลิตร ได้ขับมาในถนนซอยห้วยใหญ่
ผู้ตายได้ขับเบี่ยงล้อหลบก้อนหินที่โผล่ขึ้นมาอย่างช้า ๆ แต่เป็นช่วงเดียวที่รถซึ่งได้ขับชิดริมเหวเกินไป รถที่หนัก ล้อรถที่กดดิน เกิดยุบและเลื่อนตัว ส่งผลให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงไหล่ทาง ซึ่งมีสภาพเป็นหุบเหวสูง ก่อนรถจะพลิกหงายท้องจมน้ำ นายจรงค์ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาได้ทันเสียชีวิตดังกล่าว