ประจวบคีรีขันธ์ พ่อเมือง ลงพื้นที่ติดตามปัญหาไฟไหม้บ่อขยะหัวหิน สั่งระดมเครื่องจักรเร่งดับไฟ จี้ประเมินสถานการณ์ทุกมิติ คุณภาพอากาศ-สุขภาพประชาชน รอบบ่อขยะ ได้รับผลกระทบควันไฟ

9 พ.ค. 67 – จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะเก่า หมู่ที่ 1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่บ่อขยะเก่าของเทศบาลเมืองหัวหิน ขนาดพื้นที่กว่า 140 ไร่ ที่หยุดทิ้งขยะมานานกว่า 10 ปี ซึ่งไฟได้ไหม้ลุกลามในพื้นที่โซน A และ B ของบ่อขยะ เบื้องต้นไฟไหม้ลุกลามแล้วกว่า 20 ไร่ โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา

ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่น ทั้งอำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน องค์การบริหารส่วนตำบลทับใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประสานงานร่วมกันเพื่อเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวแล้ว แต่เนื่องจากพื้นที่ภายในบ่อขยะเก่า มีขยะเก่าจำพวกพลาสติก และขยะอื่นๆ ฝังกลบสะสมภายในบ่อจำนวนมาก มีความสูงหลายเมตร ลักษณะคล้ายภูเขาขนาดย่อมๆ

ประกอบกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัด และรถบรรทุกน้ำไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้สะดวก จึงทำให้เกิดประกายไฟปะทุขึ้นใหม่ในจุดอื่น ๆ ไม่สามารถดับไฟให้ดับสนิทได้ทันที แม้เจ้าหน้าที่จะระดมฉีดน้ำต่อเนื่องตลอดทั้งวันก็ตาม

ล่าสุด นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน, นายธนวัฒน์ เรืองเดช หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นางสาวไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน, นายอนันต์ เนื้อนิล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทับใต้,

นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน, นายรวีโรจน์ แถมมี ส.อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 หัวหิน ตลอดจน เจ้าหน้าที่จาก สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 , สำนักงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน

ได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เหตุไฟไหม้บ่อขยะ เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแผนการควบคุมไฟให้ดับสนิทโดยเร็วที่สุด โดยพบว่าในช่วงเวลากลางคืน ยังคงมีจุดความร้อน ปะทุขึ้นมาอีกหลายจุดแม้ว่าในบริเวณดังกล่าวนั้น ในช่วงกลางวันได้มีความพยายามในการเข้าดับไฟไปแล้วก็ตาม

นายสมคิด กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังข้อมูลเบื้องต้นนั้น ได้วางแนวทางในการดับเพลิงด้วยการระดมเครื่องจักร ทั้งรถแบ็กโฮ รถบรรทุกน้ำเพื่อเข้าช่วยดับเพลิง โดยจะเปิดขยะด้านล่างออกเพื่อฉีดน้ำดับให้สนิท เนื่องจากกองขยะที่ฝังกลบไว้มีความลึกมาก เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 5 เมตร

ซึ่งขณะนี้เครื่องจักรที่จะทำงานยังมีไม่พอ ในวันพรุ่งนี้จะระดมจากหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมภารกิจ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องมีรถแบ็กโฮ อย่างน้อย 6 ตัวและรถน้ำอีก 10 กว่าคัน เข้ามาดับไฟ พร้อมกับเปิดเส้นทางเพื่อให้รถบรรทุกน้ำเข้าถึงพื้นที่ได้ง่ายขึ้น และจะหาเครื่องพ่นน้ำระยะไกลเข้ามาช่วยสนับสนุนอีกทางหนึ่ง

ส่วนที่สองเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ซึ่งส่วนนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 กรมควบคุมมลพิษ ได้นำเครื่องมือมาวัดสภาพอากาศ โดยขอให้วัดเป็นช่วง ๆ เพื่อเปลี่ยนเทียบคุณภาพอากาศ จนถึงปัจจุบันว่า คุณภาพดีขึ้นหรือไม่ดีอย่างไร ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ความสำคัญ เพื่อประเมินว่าสิ่งที่ได้ทำไปแล้วมีผลอย่างไรบ้าง

สิ่งที่เป็นห่วงคือการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ที่เรียกว่า คาร์บอนมอนออกไซด์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการหายใจ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ทั้ง สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ ลงพื้นที่ไปสำรวจสุขภาพประชาชนรอบบ่อขยะ พบว่ามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟ มากที่สุดคือ หมู่ที่ 1 หมู่ 10 และหมู่ 13 ต.ทับใต้ เนื่องจากด้วยทิศใต้ของบ่อขยะและควันไฟไปทางหมู่บ้านดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีอาการหายใจลำบาก แน่นหน้าอก และตาแดง โดยมีบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 30 หลังคาเรือน

หากยังไม่สามารถควบคุมไฟได้ และประเมินแล้วว่าไม่ปลอดภัยอาจจะต้องขอให้ประชาชนบางส่วนย้ายไปอยู่ในจุดอื่นที่ปลอดภัยก่อนชั่วคราว โดยขณะนี้ได้แจกหน้ากากอนามัยเพื่อกรองฝุ่นควันป้องกันตัวเองให้กับประชาชนที่อยู่รอบบ่อขยะแล้ว ส่วนฝั่งหัวหินโดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองหัวหินนั้น สถานการณ์ล่าสุด ยังไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงได้กลิ่นควันไฟบ้างเล็กน้อย

โดยจากนี้จะให้เวลากี่วันสถานการณ์จึงจะคลี่คลายนั้น จากข้อมูลเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะในจังหวัดอื่น ๆ พบว่าใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่จะดับไฟได้สนิท เพราะด้านล่างกองขยะจะประเมินยากว่าไฟลุกไหม้ไปถึงไหน แต่ทางจังหวัดจะประเมินสถานการณ์และปรับแผนการทำงานทุกวันเพื่อให้การดับไฟคลี่คลายให้ได้โดยเร็วที่สุด เบื้องต้นน่าจะประมาณ 1 สับดาห์

ทั้งนี้จะต้องรอดูผลตรวจคุณภาพอากาศเป็นสำคัญว่า จะต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติหรือไม่ แต่เบื้องต้นได้ให้ทางอำเภอหัวหินประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนโดยรอบพื้นที่ไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่ไฟไหม้เพื่อสุขภาพของประชาชนแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน