สาวแม่ลูกอ่อน ผวา ค้างมัดจำ2.5พัน คนดูแลถึงกับล็อกประตูขัง5ชีวิต โอดใจดำไร้เมตตา เครียดหนักไร้ที่ไป ผัวทำงานแลกค่าแรงวันละ 500 บาท ครอบครัว 5 ชีวิตยังต้องกินต้องใช้

จากเหตุการณ์ที่คนดูแลบ้านเช่าทำเกินกว่าเหตุ หญิงสาวแม่ลูกอ่อนค้างค่ามัดจำบ้านเช่าเพียง 2,500 บาท ถึงกับเอากุญแจมาล็อกประตูหน้าบ้านกลางดึกขังไว้ไม่ยอมให้ออกไปไหนทั้งคืน ต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กู้ภัยมาตัดกุญแจเปิดประตูบ้านออก เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 7 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี วานนี้

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ค.2567 น.ส.ศิริวรรณ หรือแอ้ อายุ 25 ปีแม่ลูกอ่อน กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าอิดโรยว่า นอนไม่ค่อยหลับคิดมาก เป็นกังวล เนื่องจากจะต้องเตรียมตัวย้ายออกจากห้องเช่านี้ภายในสิ้นเดือน ซึ่งทางเจ้าของและผู้ดูแลได้ยื่นคำขาดมาแล้ว

ตนและครอบครัวยังคิดไม่ออกว่าจะไปอยู่ไหน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ 5 ชีวิตต้องกินต้องใช้ ยอมรับว่าเสียใจอย่างมากที่มาเจอคนที่ไม่มีเมตตา ตนเองไม่ได้ค้างค่าเช่าบ้าน แต่เป็นการค้างค่ามัดจำบ้าน 2,500 บาท จากจำนวนเต็ม 7,500 บาท เพราะเก็บล่วงหน้า 3 เดือน

ตนเองอยู่มาได้ 1 เดือนเศษ ค่าเช่าที่ผ่านมาก็จ่ายไปแล้ว แต่ทางผู้ดูแลบ้านหลังนี้ต้องการขอเงินมัดจำที่ค้างอีก 2,500 บาท ให้ครบ ตนเองไม่ได้บ่ายเบี่ยงแต่เนื่องด้วยตนเองเพิ่งคลอดลูก ไม่ได้ทำงาน มีเพียงสามีคนเดียวที่ทำรายวัน วันละ 500 บาท ซึ่ง 500 บาทก็ต้องกินต้องใช้ต่อวัน บ้านหลังนี้อยู่กันถึง 5 ชีวิต ได้ไปหยิบยืมเพื่อนมาได้ 1,500 บาท ขอจ่ายก่อน

แต่คนดูแลไม่มาตามนัดจนต้องเอาเงินไปคืนเขา แต่ในวันเดียวกันกลางดึกวันที่ 16 พ.ค. ได้โทรมาทวงเงิน ตนเองปิดเสียงโทรศัพท์เพราะดึกมากแล้ว และกลัวลูกน้อยจะตื่น จนมาหยิบโทรศัพท์อ่านช่วงเวลา 02.00 น. พบข้อความในไลน์ว่า “ผิดนัดพี่คงต้องล็อก” แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกลับไปเพราะดึกมาแล้ว จนตื่นขึ้นมาจะออกนอกบ้านพบว่าบ้านถูกล็อกจริงๆ

ด้านนายวัชรพล หรือตั้ม อายุ 25 ปี สามี กล่าวว่าตนเองเคยอยู่บ้านติดกันตรงนี้เลย เจ้าของใจดีมาก แต่ต้องย้ายที่ทำงานจึงต้องย้ายออก ห้องนี้ไม่เหมือนที่ใดที่เคยเช่ามา ค้างแค่ค่ามัดจำกลับต้องถูกล็อคบ้าน หากคืนนั้นลูกป่วย แม่ พ่อ ไม่สบาย หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดพวกตน 5 ชีวิตจะทำเช่นไร

เขาใจร้ายจัง ไม่มีความเมตตาเลย ส่วนคดีนั้นทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากักขังหน่วงเหนี่ยว ตอนนี้ยังไม่ได้พบกับคู่กรณี ซึ่งทางครอบครัวตนเองก็จะขอใช้สิทธิในทางคดีกับคนใจร้ายนี้ ซึ่งทราบมาว่าเขาก็จะฟ้องกลับเช่นกัน ซึ่งยังไม่รู้ว่าข้อหาใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน