หนุ่มรปภ.เปิดใจช้ำรักสาว คุยหวังแต่ง ผ่อนสินสอดวันละ 300 ยอมอดมื้อกินมื้อ แขนไม่เคยจับ สุดท้ายโดนเท วอนคืนเงินสินสอดที่ส่งไปให้
จากกรณีเพจ ซูมระยอง ออกมาโพสต์เปิดประเด็นเรื่องราวของรปภ.คนหนึ่ง ไปหลงรักสาวระยอง ผ่านทางโลกออนไลน์ จนตกลงปลงใจจะสร้างครอบครัวด้วยการผ่อนเงินค่าสินสอดรายวัน วันละ 300 บาท สุดท้ายถูกฝ่ายหญิงตีจาก ตัวจริงไม่เคยเห็น แขนไม่เคยจับ ช้ำรักยอมเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 3 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบรปภ.คนนี้ ทำงานอยู่ในอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนคุณเชษฐ์ อายุ 47 ปี หนุ่มรปภ. จะยอมเปิดใจแบบหมดเปลือกถึงความรักสุดช้ำว่า ตนเป็นคนจ.พะเยา เป็นพ่อม่ายลูกติด แต่ด้วยที่ฐานะทางบ้านยากจน จึงตัดสินใจเดินทางมาสมัครงานเป็น รปภ.ที่สมุทรปราการ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ช่วงแรกก็ทำงานตามปกติ ได้ค่าแรงวันละประมาณ 500 บาท เงินที่ได้มาก็แบ่งไว้ใช้จ่ายใช้กินทั่วไป อีกส่วนก็คอยส่งเงินกลับไปให้แม่และลูกที่ทางบ้าน ทำแบบนี้มาตลอด 2 เดือนกว่าที่มาทำงาน
คุณเชษฐ์ กล่าวว่า จนมาต้นเดือนมี.ค. ตนเล่นแอพฯหาคู่ แล้วไปเจอกับหญิงรายหนึ่ง อายุ 43 ปี บอกเป็นแม่ม่ายลูกติดเหมือนกัน จึงพูดคุยทักทายจีบกัน ผ่านมาเกือบเดือนหลังจากที่พูดคุยกัน ฝ่ายหญิงเอ่ยปากบอกว่าอยากให้ตนไปช่วยทำสวนทำไร่ทุเรียนที่บ้าน ไปสร้างครอบครัวด้วยกัน จากนั้นฝ่ายหญิงอ้างได้พูดคุยกับคุณแม่แล้ว ซึ่งคุณแม่ของฝ่ายหญิงบอกว่าต้องไปทำพิธีสมาสู่ขอตามขนบธรรมเนียมโบราณ โดยเรียกค่าสินสอดเป็นเงิน 59,999 บาท ตนจึงบอกว่าไม่มีเงินก้อน ฝ่ายหญิงจึงบอกว่า ให้เก็บเงินสะสมไว้ได้เท่าไหร่จนถึงสิ้นเดือนเม.ย. ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นและฝ่ายหญิงจะเติมให้ครบ ตามยอดค่าสินสอดที่บอกไว้ และไม่ต้องไปบอกแม่ฝ่ายหญิงว่าฝ่ายหญิงเอาเงินมาสมทบค่าสินสอดด้วย เพราะกลัวแม่ฝ่ายหญิงจะไม่สบายใจ และไม่ยกลูกสาวให้
คุณเชษฐ์ กล่าวว่า ตอนแรกตนตั้งใจจะโอนเงินก้อนแรกจากค่าแรงที่ทำงานได้ เป็นเงิน 3,000 บาท แต่โอนไม่ได้ จึงตัดสินใจไปคุยกับบริษัทที่ทำงาน ขอรับเงินเดือนจากรายเดือนเป็นรายวัน เพื่อนำเงินที่ได้จากค่าแรงมาส่งไปให้ฝ่ายหญิง วันละ 300 บาท หวังเป็นเงินเก็บสะสมไว้ค่าสินสอด ซึ่งบริษัทก็เข้าใจและจ่ายค่าแรงให้เป็นรายวัน จากนั้นตนจึงมาบอกกับฝ่ายหญิงว่าจะส่งเงินให้เก็บสะสมไว้ และจะส่งให้ทุกวัน ซึ่งฝ่ายหญิงก็ตกลงและยังบอกอีกว่า เงินที่ส่งมารายวันนี้จะไม่เอาไปใช้จ่ายอะไร แต่จะเก็บรวมไว้ให้เป็นค่าสินสอด ตนก็เริ่มโอนให้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โอนให้วันละ 300 บาท ไม่มีขาดตกบกพร่องแม้แต่วันเดียว แรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แถมฝ่ายหญิงยังแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการติดต่อวิดีโอคลอหากันตลอด ให้เห็นหน้าพูดคุย เห็นบ้าน เห็นสวนทุเรียน จนตนเองมั่นใจ ถึงขั้นบอกแม่และลูกว่า ช่วงนี้ของดส่งเงินให้แม่กับลูกก่อน ส่งบ้างแต่อาจไม่เท่าเดิม แล้วจะพาแม่และลูกไปอยู่ที่บ้านฝ่ายหญิงที่ระยอง ซึ่งแม่และลูกก็ไม่ได้ติดขัดอะไร
“จากเงินค่าแรงที่คอยมาให้แม่ ก็มาส่งให้ฝ่ายหญิงรายวัน วันละ 300 บาท เงินที่เหลือก็ไว้ใช้จ่ายค่ากินค่าอยู่ บางวันยอมอดมื้อกินมื้อ เพื่อเอาเงินตรงนี้ส่งให้ฝ่ายหญิงที่อ้างว่าจะเก็บไว้เป็นเงินก้อน ยอมรับว่าเริ่มมีหวังที่จะสร้างครอบครัว และมั่นใจฝ่ายหญิง เพราะเขาทำให้เห็นทุกอย่างว่า ทำอะไรอยู่ไหนอยู่กับใคร และวิดีโอคอลคุยกันทุกวัน จนมาช่วงหลังใกล้สิ้นเดือนเม.ย. ฝ่ายหญิงเริ่มหาเรื่องชวนทะเลาะมากขึ้น โดยอ้างไม่ชอบคนจุกจิกจู้จี้ หรือโทรจิก ซึ่งการโทรจิกนั้นคือทักหาไม่ตอบ การพูดคุยไม่เหมือนเดิม โทรหาเพราะห่วงฝ่ายหญิง จนเรื่องเริ่มบานปลายขึ้นและฝ่ายหญิงไม่ตอบกลับ โทรไม่รับสาย ผมเริ่มท้อในความรัก พอสอบถามความจริงก็ไม่ได้รับคำตอบ จนต้องขอเงินที่ส่งรายวัน วันละ 300 บาทคืน ซึ่งรวมทั้งหมดระยะเวลาเดือนกว่ารวมก็หมื่นกว่าบาท แต่ฝ่ายหญิงบอกจะคืนให้ต้นเดือนที่ผ่านมา พอถึงวันก็บ่ายเบี่ยง ขอเลื่อนมาต้นเดือนนี้ พอถึงวันก็เงียบหาย โทรก็ไม่รับไม่ติดต่อกลับ”
คุณเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเองยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก ยอมทุกอย่างเพื่อหวังสร้างครอบครัว แต่มาถูกตัดความสัมพันธ์แบบนี้ ตอนนี้อยากได้เงินที่ส่งไปทั้งหมดคืน เพื่อเอาเงินนั้นไปให้แม่และลูกของตนเอง
เมื่อถามว่ายังมีใจกับฝ่ายหญิงอีกหรือไม่ คุณเชษฐ์บอกว่า หมดใจแล้วไม่เหลือแม้แต่ความรู้สึกที่ดีเคยมีให้ไป การที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อครั้งนี้ไม่ใช่ตนเองจะอยากออกมาแฉอะไร แต่ที่ผ่านมาไม่ยอมมาคุยไม่รับสายเอง ซึ่งหากพูดคุยกันตกลงกันดีๆ และต้องการจบกันด้วยดี ตนเองก็ยอมและไม่ใจร้ายไส้ระกำกับฝ่ายหญิงแน่