เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมขอนแก่น โฮเต็ล นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมด้วย น.ส.จิรดา พูนสวัสดิ์ ประชาสัมพันธ์ จ.ขอนแก่น, นายธีระพงษ์ โสดาศรี อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยกำนันและผู้ใหญ่จากทั้ง 17 ตำบลในเขต อ.เมืองขอนแก่น ลงนามความร่วมมือบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการเป็นเครือข่ายภาคประชาชนป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในเขต อ.เมือง ตามแผนการดำเนินงานร่วมกันระหว่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช., สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ขอนแก่น,อำเภอเมืองขอนแก่นและชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อ.เมืองขอนแก่น

โดยมี น.ส.ปณิกา ยศปัญญา นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สาขาการพัฒนาชุมชน และ น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นผล อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ซึ่งเป็นพยานคนสำคัญในคดีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อทุจริตคอร์รัปชั่นจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ท่ามกลางความสนใจจากกำนันและผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งผู้ที่ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าว เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวรวมกว่า 500 คน

น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม กล่าวว่า วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าตนเองไม่ได้เป็นเด็กเลี้ยงแกะ ตามที่อาจารย์หรือผู้ใหญ่กล่าวหา เพราะเรื่องที่นำมาเปิดเผยต่อสาธารณะชนและนำเข้าร้องเรียนต่อเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช.นั้น ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบแล้วและพบมูลความผิดมากถึง 44 จังหวัด ซึ่งเรื่องคดีความนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องตรวจสอบ ซึ่งตนเองนั้นยังคงต้องให้การกับ ป.ป.ท. ในฐานะพยานปากสำคัญตามขั้นตอนของการไต่สวน

“เป็นเวทีสาธารณะเวทีแรกที่หนูมากล่าวแสดงความรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้น หนูขอขอบคุณทุกกำลังใจ เพราะวันนี้กำลังใจที่หนูได้รับมาจากทั่วทั้งประทเศ ซึ่งถือเป็นของขวัญที่สูงสุดของตัวเองและครอบครัวแล้ว เพราะเราทำดี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง จนกลายเป็นกรณีศึกษาที่นิสิตคนหนึ่งนำสิ่งที่ผิดมาแจ้งให้กับรัฐบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบนั้นได้รับทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและทำให้ถูกต้อง การพูดวันนี้คงเป็นการสร้างกำลังใจและจุดประกายความกล้าให้กับภาคประชาชนและภาคประชาสังคม ในการที่จะออกมาต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะรัฐบาลประกาศนโยบายเรื่องการปราบโกงการปราบการทุจริตคอร์รัปชั่นชัดเจนและเชื่อว่า ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้นทำได้และปราบโกงได้สำเร็จ” น.ส.ปณิดา กล่าว

น.ส.ปณิดา กล่าวต่อว่า สาขาพัฒนาชุมชนและพัฒนาสังคม คนที่เรียนคือคนที่มีใจรักและต้องการทำงานเพื่อชุมชนและสังคมอย่างแท้จริง วันนี้ทราบมาว่าน้องๆนักเรียนและคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจที่จะเรียนในสาขานี้เยอะขึ้น และตนเองพร้อมที่จะเป็นรุ่นพี่ที่คอยแนะนำและสอนให้กับน้องๆรุ่นใหม่ในการเป็นพัฒนาชุมชนและนักพัฒนาสังคมที่ดี และนำความรู้ความสามารถและวิชาที่เรียนมานั้นไปทำประโยชน์ให้กับประทเศและทำประโยชน์ให้กับผู้ยากไร้ คนยากคนจนได้อย่างครบถ้วน

“หนูขอบคุณที่หลายคนยกให้หนูเป็นต้นแบบของการต้านโกง เป็นต้นแบบให้กับเด็กและเยาวชนครุ่นใหม่ในการที่จะกล้าทำดี และทำจริง วันนี้ขอให้น้ำหนักในเรื่องเรียนมากกว่า เพราะเมื่อเปลี่ยนหัวข้อการวิจัยจากเดิมคือเรื่องการดูแลผู้ป่วยทางจิตเวช ที่ต้องทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นและ รพ.จิตเวชราชนครินทร์ขอนแก่น มาเป็นหัวข้อการดูแลผู้สูงอายุ และเปลี่ยนพื้นที่ในการทำวิจัย เปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษา ทำให้งานช้ากว่าเพื่อนมากวันนี้ทำได้เพียง ร้อยละ 40 และจะต้องสำเร็จการศึกษาในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้พร้อมเพื่อนทำให้ช่วงนี้ขอลงพื้นที่ทำวิจัยอย่างเต็มที่ โดยมีพี่ทหาร และตำรวจคอยรักษาความปลอดภัย อยู่ทุกวัน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ต้องเปิดเผยพื้นที่ของการทำวิจัยด้วย ทำให้การลงพื้นที่แต่ละต้องระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา” น้องแบม กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน