วันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายแสน นิมิตรัมย์ ชาวบ้าน ต.สำโรง อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่เงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปพบแพทย์ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ โดยนายแสน เล่าว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้าอยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว เมื่อช่วงเข้าพรรษาปีก่อน ตนไปรับงานที่เขตอำเภอขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ โดยระหว่างขี่รถจยย.ออกไปทำงาน ปรากฏว่ามีรถจยย.อีกคันพุ่งมาชนด้านข้างอย่างจังจนตัวเองสลบไป พอมารู้สึกตัวอีกที ตนก็มานอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
นายแสน เล่าต่อว่า เมื่อฟื้นคืนสติขึ้นมา ตนแทบช็อกเนื่องจากตนได้บาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะที่ขาซ้าย ซึ่งหมอได้ระบุว่ากระดูกได้แตกเป็นเสี่ยงๆ จะต้องดามเหล็กและโครงสร้างยึดด้านนอกเพื่อรอให้กระดูกติดกัน แต่ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูและไม่มั่นใจว่า ขาซ้ายของตนจะกลับคืนมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้อีกหรือไม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุในช่วงแรกพี่สาวของตนจะคอยช่วยเหลือ ตามเรื่องคดีให้โดยฝั่งของคู่กรณีนั้นคาดว่าอายุไม่ถึง 20 ปี และไม่ทราบว่ามีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่
นายแสน เล่าอีกว่า ส่วนตนเองนั้นสวมใส่หมวกนิรภัยและมีใบอนุญาตขับขี่ครบ ซึ่งทางตำรวจเองยังระบุว่าฝั่งคู่กรณีของตนเป็นฝ่ายผิด จากนั้นทางรพ.ขุขันธ์ ได้ส่งตนไปรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ต่อมาก็มีการเจรจาตกลงจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ซึ่งตนเองได้ตกลงยินยอมยอมกันเพราะถือว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่หลังจากนั้นทางฝั่งคู่กรณีกลับไม่มีการจ่ายเงินสินไหมตามที่ได้สัญญากันเอาไว้และมีการผลัดวันไปเรื่อยๆ มาจนถึงตอนนี้ฝ่ายคู่กรณีได้ผิดนัดการจ่ายค่าสินไหม 4 หนแล้ว
นายแสน เล่าต่ออีกว่า จนล่าสุดฝั่งของคู่กรณีได้มาขอเลื่อนอีกไปเป็นวันที่ 2 เม.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งตนไม่มีความมั่นใจโดยเฉพาะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพราะว่าตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุมาจนถึงตอนนี้ ล่วงเลยเวลาแล้วนานกว่า 6 เดือน ตนยังไม่เห็นคู่กรณีมาเยี่ยมหรือเยียวยาตนแต่อย่างใด ส่วนร้อยเวร สภ.ขุขันธ์ เจ้าของคดีก็ยังไม่มีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งที่ตนเองบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังต้องมาเดือดร้อนอย่างหนัก เงินค่ารถเดินทางไปหาหมอก็แทบจะไม่มี
นายแสน เล่าทิ้งท้ายว่า ตอนนี้หมอที่รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ จะให้ตนไปรักษาต่อที่ รพ.ศิริราช จ.นครราชสีมา เพราะเครื่องมือแพทย์ไม่พร้อม ค่าใช้จ่ายในการเดินก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกเพราะต้องเดินทางไกล ตนขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งติดตามคดีที่ค้างคามานานให้จบโดยเร็ว เพราะอยากจะได้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างการรักษา หรือหากมีผู้ใจบุญจะให้ยืมเงินมารักษาก่อน เมื่อหายเป็นปกติ ก็จะทำงานมาใช้หนี้สินให้ทั้งหมด
