เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และนายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และคณะเดินทางไปยังหมู่บ้านบางกลอยล่าง เพื่อเยี่ยมเยียนนายคออิ มิมี หรือปู่คออี้ ผู้เฒ่าชาวกะเหรี่ยงอายุ 106 ปี โดยใช้เวลาไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่ประมาณ 30 นาที ทั้งนี้นางเตือนใจได้ถามถึงสุขภาพซึ่งปู่คออี้ตอบว่า ตอนนี้ดีขึ้นหลังจากป่วยก่อนหน้านี้ แต่รู้สึกร้อนเพราะต้องนั่งๆ นอนๆอยู่แต่ในบ้านเดินไปไหนไม่ค่อยไหว ที่สำคัญคือสภาพอากาศด้านล่างที่ถูกจัดให้อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ไม่เหมือนกับข้างบนในป่าใหญ่ที่เป็นบ้านเดิม

“ปู่ไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโต ปู่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง อยากกลับไปบ้านเดิม ไม่อยากอยู่ที่นี่ มันร้อน สู้อากาศที่นี่ไม่ไหว ถ้าเขาอนุญาตให้กลับ หากเดินไหวก็จะเดิน ถึงแม้กลับไปข้างบนก็ยังอยู่ในประเทศไทย ถ้าอนุโลมให้กลับก็มีลูกหลานพยุงพาไปได้ หากปู่ได้กลับขึ้นไปคนอื่นก็ต้องรับรู้ด้วย หากแอบกลับไปก็ไม่ดี ต้องให้หลายๆ คนรู้ เวลานี้ปู่รอ หากเขาอนุญาตก็จะคุยกับลูกหลานให้พากลับขึ้นไป ตอนย้ายลงมา (ที่บ้านบางกลอยล่าง) เขาเอาเฮลิคอปเตอร์ไปรับปู่ลงมา”ปู่คออี้กล่าว

ปู่คออี้กล่าวว่า พ่อแม่เคยสอนไว้ว่าเป็นชาวดอยชาวเขาก็ต้องอยู่บนดอยบนเขา คนพื้นราบก็อยู่กับคนพื้นราบ ถ้าคนบนดอยมาอยู่กับคนพื้นราบก็จะทะเลาะกันเพราะไปแย่งที่ดินกัน แต่ถ้าไปเยี่ยมเยียนกันได้

“ปู่เกิดมาบนโลกนี้ใหม่ๆ เนื้อตัวไม่สะอาด แต่โตขึ้นก็อยากทำความดี ทำความสะอาดให้โลกนี้ ถ้าคนในโลกช่วยกันทำความสะอาด คนทำความดีย่อมดีกว่าเพื่อน ปู่เกิดมาในโลกไม่อยากทำอะไรชั่ว แต่คนอื่นๆ ก็อย่าทำลายปู่ เวลานี้เราทำความดีคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันทำหลายๆคน”ปู่คออี้ กล่าว


ปู่คออี้กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่ในป่าต้นแม่น้ำภาชี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ก่อนย้ายมาอยู่บ้านใจแผ่นดินซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยตอนที่เจ้าหน้าที่ไปรับลงมา ไม่ได้บอกอะไรปู่เลย อยู่ๆ ก็ไปรับขึ้นเฮลิคอปเตอร์ลงมาโดยไม่ได้เตรียมตัว

เมื่อถามว่ามีหลักฐานอะไรที่ยืนยันว่าอยู่ที่บ้านบางกลอยบนมานาน ปู่คออี้กล่าวว่า มีสวนหมาก 6 แห่ง และยังมีสวนมะม่วง ขนุน ทุเรียน มัน พลู

“อยู่ข้างบนต้องปลูกข้าวกิน หากไม่ได้ถางไร่ ข้าวก็ไม่ขึ้น หากไม่ถางก็ไม่มีอะไรกิน แต่ปู่ไม่ได้ทำลายป่า เราปลูกอยู่ในไร่ ปล่อยไว้พืชป่าก็ขึ้น แล้วเราก็วนกลับมาทำอีกรอบหนึ่ง วนไปเรื่อยๆ ปู่อยู่บนดอยที่บ้านเดิมก็ปลูกข้าวเอง ในไร่” ผู้เฒ่าชาวกะเหรี่ยงกล่าว

นายมานะให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเห็นและเข้าใจคนที่มีภูมิหลังของตัวเอง และอยากให้ปู่คออี้ได้มีโอกาสกลับไปบ้าง อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังสำรวจและแก้ปัญหาชาวบ้านที่อยู่รอบๆ อุทยานฯ โดยได้ทำการสำรวจชุมชนซึ่งมี 35 กลุ่มบ้าน 31 ชุมชน โดยตั้งคณะกรรมการระดับพื้นที่ขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลด้านต่างๆ และจะมีการทำประชาคมโดยเน้นการมีส่วนร่วมเป็นสำคัญซึ่งมีการเขียนกติการ่วมกันประมาณ 10 ข้อ

————

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน