คณะครูโรงเรียนอัสสัมชัญที่เกษียณ ร้องศาลแรงงานกลาง กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหารมูลนิธิเซนต์คาเบรียลในเรื่อง สิทธิแรงงาน สวัสดิการ สิทธิเงินชดเชย และสิทธิการเลือกรับบำนาญเมื่อเกษียณ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ศาลแรงงาน ถนนพระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร มาสเตอร์ ฐิรวัฒน์ ขำสิน ตัวแทน ครูเกษียณโรงเรียนอัสสัมชัญ ผู้พิทักษ์รักษาความยุติธรรม พร้อมทนายความ เดินทางมายื่นฟ้องผู้บริหารมูลนิธิคณะภราดาเซนต์คาเบรียล แห่งประเทศไทย ต่อศาลแรงงานกลาง กรณีไม่จ่ายเงินเกษียณตามสิทธิ์ครู ไม่จ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย และไม่จ่ายเงินบำนาญตามสัญญาจ้าง กว่า 20 ปี เสียหายหลายล้านบาท โดยมีศิษย์เก่าของโรงเรียนอัสสัมชัญ มามอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจ

มาสเตอร์ ฐิรวัฒน์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนครูเกษียณโรงเรียนอัสสัมชัญได้เรียกร้องสิทธิไป 2 ข้อ คือเงินที่ถูกเลิกจ้างงานเมื่อตอนเกษียณ และเพิ่มเงินบำนาญครู ตามระเบียบของกฎหมายแรงงานและตามระเบียบของมูลนิธิคณะภราดาเซนต์คาเบรียล ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ในส่วนของแนวโน้มว่าจะชนะการฟ้องหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทางมูลนิธิจะให้ความอนุเคราะห์กับครูมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากมีการไกล่เกลี่ยกับมูลนิธิ ก็จะขอความเห็นใจ ซึ่งศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 11 เม.ย. นี้ ซึ่งข้อเรียกร้องที่ทางครูต้องการให้อนุมัติ คือการจ่ายเงินชดเชย 10 เดือน เงินเดือนขั้นสุดท้ายตามระเบียบของกฎหมายแรงงาน และเงินเพิ่ม เงินบำนาญที่ควรได้รับ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้จ่าย

ด้าน ดร.ชาติชาย นรเศรษฐาภรณ์ ตัวแทนศิษย์เก่าและอุปนายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่คณะครูผู้กล้ารุ่นที่ 1 เพราะบางท่านอายุความจะหมดแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานที่มีอายุความ 10 ปี เราไม่ได้มาชุมนุมแต่เรามาให้กำลังใจครูที่มีบุญคุณต่อเราลูกหลานและสถาบันอัสสัมชัญ ในวันที่ท่านสอนให้เราซื่อสัตย์ สุจริต เราต้องยืนอยู่ข้างความถูกต้อง เราคารพกฎกติกาบ้านเมืองที่มีอยู่ เราไม่มาต่อสู้แค่วันนี้แต่ เรื่องนี้เกิดขึ้นมาร่วม 20 ปี เป็น 20 ปีที่ครูต้องมาร้องขอความเป็นธรรม เจรจา ของความเมตตาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและสมควรจะเป็น

“เมื่อทางศิษย์เก่าได้รับข้อมูลว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จึงมาดูแลครู เราใช้เวลาหลายปี เพื่อขอพบ ขอเจรจา แนะนำ และหาทางออก ทางสมาคมผู้ปกครองได้รับเรื่องนี้จากศิษญ์เก่าและครู สมาคมผู้ปกครอง จึงทำตัวแทนขอเข้าพบ ผู้บริการสูงสุดของมูลนิธิ เรียนให้ท่านทราบว่าไม่ได้มีเจตนาเรียกร้องอะไรที่เกิดเลย และเรียนให้ท่านเห็นถึงความยากลำบากของครูหลังจากเกษียณแล้ว ครูที่ไม่มีสิทธิเลือก ว่าจะรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญ ครูมีทางเลือกเดียวคือเงินบำเหน็จ แต่ความจริงแล้วข้อกำหนดชี้แจงว่า ครูสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญได้ตามความสมัครใจ แต่ขณะนี้ครูได้รับเงินบำเหน็จด้วยความไม่เต็มใจเนื่องจากไม่มีทางเลือก ความพยายามร่วมปี ในช่วงสุดท้าย ทำหนังสือเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ขอท่านพบแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ท่านก็เลี่ยงที่จะพบ หรือให้คำตอบเดิมๆ ซึ่งคำตอบที่ได้มาคือขอพิจารณา อยากได้อะไร ซึ่งท่านทราบดีอยู่แล้วว่าครูต้องการอะไร เราอยากเจรจาแต่เมื่อการเจรจาไม่เป็นผล ครูจึงจำเป็นต้องขอความเมตตาจากศาล เพื่อขอความยุติธรรม ตามความเหมาะสม” ดร.ชาติชาย กล่าว

ด้านคุณพชร สตางค์มงคล ทนายความของครู กล่าวว่า ทางกฎหมายได้ยื่นฟ้องเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการไกล่เกลี่ย เปิดโอกาสให้ครูและผู้บริหารมูลนิธิคณะภราดาเซนต์คาเบรียลเจรจาพูดคุย สามารถช่วยเหลืออาจารย์ได้หรือไม่ หากไกล่เกลี่ยได้เรื่องอาจจะจบ แต่หากไม่สามารถเจรจาได้ ก็ให้ดุลพินิจต่อศาลต่อไป

อย่างไรก็ตาม การฟ้องคดีนี้อายุความของคดีจะหมดตามอายุความของครูตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน หรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากการฟ้องคดีนี้ไม่เกี่ยวกับอายุความของครู แต่เป็นการฟ้องตามอายุความของคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน