วันที่ 27 มี.ค.61 พ.ต.อ.กฤษณัฐ วงศ์กล้าหาญ ผกก.สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปที่บ้านของ นายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตาและญาติของนายยวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ อายุ 46 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านเขางาม หมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง ที่ถูกนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต อายุ 41 ปี ร่วมกับพวกรวม 8 คน สังหารเสียในครอบครัวและญาติๆ เสียชีวิตรวม 8 ศพ ภายในบ้านพักเลขที่ 14/3 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ปีที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปฟังคำพิพากษาในคดีในวันพรุ่งนี้ (28มี.ค.) โดยจำกัดจำนวนญาติไม่เกิน 10คน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย พรุ่งนี้ชี้ชะตา‘บังฟัต’ ฆ่าโหด‘ผู้ใหญ่บัติ’ตายยกครัว 8 ศพ คดีดังอ่าวลึกเมื่อปี 60
นายจรีย์ พ่อตานายวรยุทธ เปิดเผยว่า แม้ว่าเหตุการณ์ผ่านมากว่า 8 เดือน แต่ทุกคนในครอบครัว ยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ต้องสูญเสีย คนที่รักในครอบครัวพร้อมกันถึง 8 คน สุภาพจิตเสีย นอนไม่หลับ ยากที่จะทำใจให้ลืมได้ ขอให้ศาลตัดสินประหารชีวิตที่ร่วมกันฆ่าผู้อื่น 8 ศพ เพื่อความเหมาะสมกับการกระทำ ทั้งนี้หากมีการณ์ลงโทษน้อยกว่าจากที่คาดการณ์ก็คงจะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อไป ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินที่นายซูริก์ฟัต ได้เอาไปจำนองธนาคารไว้นั้น ล่าสุดทางนายซูริก์ฟัต ได้ตกลงยอมโอนโฉนดคืนให้ แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องชำระนี้ที่ค้างไว้กับทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ระบุว่าจะต้องจ่ายคืนจำนวนเท่าใด ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องเอกสาร
ขณะที่ญาติของนายซูริก์ฟัต ได้ระบุว่า ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ตนและญาติๆ ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก คนในครอบครัวต้องตกเป็นจำเลยสังคมทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ส่วนในเรื่องคดีฆ่าคนนั้นก็ต้องยอมรับ ผลกรรมที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่เรื่องที่นายซูริก์ฟัตถูกกล่าวหาว่า โกงที่ดินของผู้ตายและครอบครัว ทั้งที่จ่ายหนี้คืนให้แล้ว 7แสนบาท แต่ยังไม่ยอมคืนให้ โฉนดให้ นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะหนี้สินที่ครอบครัวผู้ตายกู้ยืมจากนายซูริก์ฟัตนั้นไม่ต่ำกว่า3ล้านบาท ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน แต่เมื่อข่าวออกไปก็ส่งผลให้ครอบครัวก็ต้องถูกสังคมประณามด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ก็จะไปร่วมฟังคำพิพากษาด้วย และยอมรับคำตัดสินของศาล
ทั้งนี้คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 ก.ค.60 นายซูริก์ฟัต บ้านนพวงศ์กสุล พร้อมพวก รวม 8 คน แต่งกายชุดคล้ายทหาร บุกเข้าไปจับตัวนายวรยุทธ สันหลัง และคนในครอบครัว ญาติๆ รวม 11 คน ไว้ตามห้องต่างๆ ภายในบ้านพัก จากนั้นใช้อาวุธปืนของนายวรยุทธ จ่อยิงศีรษะทีละคน แต่มีผู้รอดชีวิต 3 คน โดยสาเหตุเกิดจากความยัดแย้งเรื่องโฉนดที่ดิน ที่พ่อตานายวรยุทธ นำไปจำนองไว้กับ นายซูริก์ฟัต จนกระทั่งได้มีการผ่อนชำระหมด แต่นายซูริก์ฟัตได้นำที่ดินไปจำนองไว้กับทางธนาคาร ไม่สามารถนำหลักฐานที่ดินกลับมาคืนให้ได้ ได้มีการทวงถามกันหลายครั้ง สร้างความขัดแย้งกัน นายซูริฟัต จึงวางแผนก่อเหตุ โดยจัดฉากว่านายวรยุทธ เครียด มีปัญหาเรื่องหนี้สินก่อเหตุฆ่าคนในครอบครัว และฆ่าตัวตายตาม
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ประกอบด้วย นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ บังฟัต อายุ 41 ปี 2.นายประจักษ์ บุญทอย (จักร์) อายุ 36 ปี 3.นายคมสรรค์ เวียงนนท์ (ม่อน) 4.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ (เลาะห์) อายุ 30 ปี 5.นายธวัฒชัย บุญคง (ชัย) อายุ 37 ปี 6.นายอรุณ ทองคำ (กี้ร์) อายุ 29 ปี 7.นายธนชัย จำนอง (โกบ) อายุ 41 ปี และ น.ส.ชลิตา สังข์โชติ อายุ 41 ปี
