รถกระบะวีโก้ลักลอบขนพืชกระท่อมรายใหญ่กว่า 500 กิโลกรัม พุ่งชนเก๋งวีออสที่ขับสวนทางมา หนุ่มพัทลุงดับสยองคาซากรถ 1 ราย ยึดของกลางพืชกระท่อมตกเรี่ยราดเกลื่อนถนนสายบายพาส แยกต้นรัก-นาตาล่วง หลังเกิดเหตุเจ้าของกระบะเผ่นหนีไปได้
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 8 พ.ย. พ.ต.ต.เมธี ภิญโญประการ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง จ.ตรัง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ บนถนนบายพาสตรงหลักกม.ที่ 30 สายแยกต้นรัก-นาตาล่วง ม.3 ต.บ้านโพธิ์ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ร.ต.ท.อุดม สุขชนก รอง สว.สส. และกำลังตร.ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ ก่อนแจ้งประสานไปยัง ร.ต.อ.(หญิง) จันทิมา อาบสุวรรณ์ รอง สว.พฐ.จ.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบพืชกระท่อมบรรจุในกระสอบปุ๋ย ถูกทำเป็นมัดๆ ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกอย่างดี กระจัดกระจายเกลื่อนถนน ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา หมายเลขทะเบียน กธ908 สงขลา จอดพลิกคว่ำหงายท้องอยู่ในคูน้ำริมถนน ส่วนคนขับหายตัวไป คาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บเพราะพบหยดเลือดในรถ
ตรวจสอบภายในรถพบหลักฐานระบุพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และพืชกระท่อมบรรจุอยู่ในกระสอบประมาณ 500 กิโลกรัม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ในคูลึกพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 9274 ภูเก็ต สภาพพังยับเยิน ตรงที่นั่งคนขับ พบร่างโชกเลือดอัดก๊อปปี้กระแทกกับพวงมาลัยรถอย่างรุนแรงจนถุงลมแตก ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือนายวิจิตร ชูจันทร์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 ม.11 ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ ต้องใช้เครื่องตัดถ่าง ดึงร่างออกมาอย่างทุลักทุเล
จากการสอบสวนเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ประสบเหตุทั้งสองฝ่ายขับรถสวนทางกัน และน่าจะขับรถด้วยความเร็วสูงหรือหลับใน ประกอบกับถนนสายดังกล่าวเป็นทางเปลี่ยวและมืด กลุ่มมิจฉาชีพมักจะใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบขนยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ระหว่างทางขับมาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดเสียหลักพุ่งชนทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
สำหรับรถกระบะโตโยต้า เชื่อว่ากำลังลำเลียงขนพืชกระท่อมจำนวนมาก ไปส่งขายยังปลายทาง แต่มาประสบเหตุระหว่างทาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฯจะเร่งสืบสวนขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดรายนี้ เชื่อว่ากลัวความผิดคดีลักลอบขนพืชกระท่อมและหลบซ่อนตัวในป่าข้างทาง หรือโทรให้เพื่อนมารับตัวไป
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ฯ สั่งตรวจสอบตามโรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหารายนี้ เข้าไปรักษาตัวแล้ว และจะเร่งสอบสวนดูสถานที่เกิดเหตุในช่วงกลางวัน เพื่อหาสาเหตุรถชนอย่างละเอียดอีกครั้ง