เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ทหารปิดล้อมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อการตรวจสอบบัญชีการเงินของโรงเรียนฯและตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวโยงกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ตามที่การข่าวแจ้งมาและการซัดถอดของสมาชิกแนวร่วม ขณะที่พล.ท.ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงรายละเอียดที่มทบ. 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ หนองจิก จ.ปัตตานี ว่า จากการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี พบหลักฐานที่น่าเชื่อว่า มีโรงเรียนบางแห่งที่มีพฤติกรรมทุจริตงบประมาณของรัฐ เป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐประมาณ ปีละไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท

ทำให้เยาวชนที่อยู่ในวัยการศึกษาตามระบบการศึกษาภาคบังคับเสียโอกาสทางการศึกษา หรือเสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณ ปีละ 101,000 คน จากนักเรียนทั้งหมด 165,072 คน มีครูที่ได้รับการการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐเป็นค่าตอบแทนรายเดือน เสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณ 4000 คน ประมาณการจากหลักฐานที่ปรากฏและการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องพบว่า งบประมาณของรัฐได้ถูกใช้จริงเพียงร้อยละ 40 มีการทุจริตประมาณร้อยละ 60 จากเงินอุดหนุนการศึกษาของจังหวัดปัตตานี ปีละประมาณ 1,260 ล้านบาท ถูกเบียดบังไปเพื่อประโยชน์โดยทุจริตประมาณ ปีละ 760 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งน่าเชื่อว่าอำพรางด้วยรายชื่อของบุคคลากรทางการศึกษาซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานว่า มีคุณวุฒิด้านใดและมีความเหมาะสมอย่างไร

แม่ทัพภาคที่ 4 เผยอีกว่า พบว่าโรงเรียนบางแห่งมีพฤติกรรมให้การสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรง พบพฤติกรรมของบุคคลากรทางการศึกษาบางคน เป็นผู้ทำหน้าที่สอนบิดเบือนปลูกฝังความคิดความเชื่อแนวทางรุนแรงปลูกจิตสำนึกเกลียดชังรัฐและปลูกฝังความคิดแบ่งแยกระหว่างประชาชนต่างศาสนาให้กับนักเรียน แล้วคัดเลือกนักเรียนไปพัฒนาต่อยอดให้เป็นสมาชิกปฏิบัติการของผู้ก่อเหตุรุนแรง การตรวจค้นโรงเรียน 5-6 แห่งในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเป็นการขายผลจาก เมื่อ 27 ม.ค. ที่ชุดฉก.ปัตตานี ได้สนธิกำลัง ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบภายในโรงเรียนบากงพิทยา บ้านบากง ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

ผลการดำเนินการ ตรวจพบเอกสารปลุกระดมมวลชน ถังดับเพลิงและถังแก๊สปิกนิก ที่เก็บไว้ในลักษณะอำพรางซุกซ่อน ไม่ได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่อาจมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ที่น่าสงสัย และตรวจพบหลักฐานการทุจริตงบประมาณในการอุดหนุนการศึกษาของรัฐ การให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อำพรางเป็นบุคลากรทางการศึกษาอยู่ในโรงเรียน พฤติกรรมการทุจริตงบประมาณของรัฐในการให้การสนับสนุนการศึกษา บัญชีรายนักเรียนที่ไม่ตรงกับจำนวนที่เข้าเรียนจริง ใบเสร็จรับเงินที่จัดซื้อหนังสือเรียน ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องยอมรับว่า ได้จัดซื้อจริงเพียง ร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือให้ร้านค้าเขียนใบเสร็จเต็มจำนวนเพื่อให้ได้ประโยชน์จากส่วนต่าง

มีการจ่ายค่าตอบแทนครู น้อยกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด คือ กระทรวงศึกษาธิการจ่ายค่าตอบแทนรายเดือน ให้ครูที่บรรจุตามวุฒิ รายละ 15,000 บาท แต่โรงเรียนจ่ายให้ประมาณ 7-8 พันบาท โดยอ้างว่า เป็นความสมัครใจของครู เพื่อนำเงินส่วนต่างมาเฉลี่ยจ่ายให้บุคคลอื่นที่ไม่ได้บรรจุตามวุฒิ กรณีนี้แม้จะอ้างว่า เป็นข้อตกลงร่วมกันแต่ก็มีผลต่อขวัญกำลังใจและคุณภาพการศึกษาที่อาจจะต่ำกว่าที่ควรจะเป็น มีการจ่ายค่าเสี่ยงภัยของครู น้อยกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด กล่าวคือ กระทรวงศึกษาธิการจ่ายค่าเสี่ยงภัยให้ครู รายละ2,500 บาทต่อเดือน แต่โรงเรียน จ่ายให้เพียง 1,000-1,500 บาท โดยอ้างว่าต้องนำมาเฉลี่ยให้ครูที่ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ซึ่งเป็นการกระทำที่ ผิดวัตถุประสงค์แห่งรัฐ และทำให้ครูมีขวัญกำลังใจตกต่ำ

ด้านพล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าตรวจค้นโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ มีการค้นอาคารทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียน พร้อมยึดเงินสด 1,227,980 บาท และเอกสาร หลายรายการ กำลังตรวจสอบว่าจะมีการทุจริตงบอุดหนุนโรงเรียน และกำลังตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหรือไม่ การตรวจค้นโรงเรียนตั้งแต่ วันที่ 27 ม.ค. 2561 ค้นโรงเรียนมาทั้งหมด 5-6 โรง หลังค้นโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ ในพื้นที่ปัตตานี ยังพบเอกสารการฝึกที่บ้านพักเด็กซึ่งโรงเรียนจะรู้เห็นหรือไมคือสิ่งที่จะต้องมาตรวจสอบต่อไป จากภาพรวมที่มีการตรวจค้นโรงเรียนมา 5-6 โรงใน จ.ปัตตานี สามารถควบคุมตัว นายมูหัมมัดนาสีรูดดิน เล๊ะนุ๊ นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนปัตตานี และได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ สช.และที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแล้วปล่อยตัวกลับ 7-8 คน

สำหรับการทุจริตเงินอุดหนุนของโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานเป็นสิบๆปี แต่ไม่มีมีหน่วยงานไหนกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะสำนักงานการศึกษาเอกชน หรือ สช. ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ไม่กล้าที่จะตรวจสอบ ทั้งการเงิน การบริหาร และการเรียนการสอน ทำให้โรงเรียนบางแห่งทำบัญชีผี โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่มี 200 กว่าโรงมีการตรวจสอบพบโรงเรียนที่เข้าข่ายทุจริตแล้วไม่ต่ำกว่า 100 โรงเรียน

ด้านนายมูฮำหมัด หะยีเต๊ะผู้อำนวยการ โรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ กล่าวว่า ยืนยันไม่มีความคิดเกี่ยวข้องกับขบวนการอย่างที่ถูกกล่าวหา รู้สึกงง กับข่าวที่ออก พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง และขอความเป็นธรรมกับโรงเรียนและตนด้วย ทหารยึดเอกสารทางการเงิน บัญชีครู บัญชีการเงิน ทะเบียนรถที่ผมขับ พร้อมยึดโฉนดที่ดินของพ่อ และของชาวบ้านที่เอามาฝากไว้ 60 ใบ ก่อนที่จะไปค้นที่บ้านแม่และยึดเงินซึ่งในจำนวนนั้น เป็นเงินคนแก่ที่มาพักที่ปอเนาะ เงินของลูกพี่ลูกน้อง 4-5 แสนบาท รวมทั้งเงินของเด็กนักเรียนที่ใช้เป็นค่าถ่ายรูปวันจบการศึกษาฯลฯไปจนหมด

“โรงเรียนฯมีเด็กที่เรียนอยู่ 3,584 คน ครู 216 คน ที่จบไปเป็นปลัดเป็นข้าราชการก็เยอะสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนและจังหวัด พร้อมให้ตรวจสอบและสามารถชี้แจงได้ทุกรายการเวลาประชุมบอกครูและเด็กนักเรียนทุกครั้งห้ามทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบถ้าเจอจะต้องถูกไล่ออก ผมอยากอยู่สบายๆข้างนอกไม่มีใครอยากไปอยู่ในคุกจึงไม่ไปหาเรื่องอย่างที่ถูกกล่าวหา” นายมูฮำหมัดกล่าว

ด้านนางฮามีดะห์ หะยีเต๊ะ (มามาดะห์)ภรรยาอดีตโต๊ะครูอับดุลกอเดร์ กล่าวว่าเงินที่เจ้าหน้าที่ยึดไปตรวจสอบนั้นเป็นเงินที่เก็บรวบรวมมาหลายส่วน เดิมเราเก็บใส่ถุงแยกจากกันเป็นต่างหากเพื่อไม่ให้สับสนและมั่วกันและจะเขียนไว้หน้ากระเป๋าหรือหน้าซองว่าเป็นเงินมาจากส่วนใดจำนวนเท่าใด แต่ตอนนี้ถูกเจ้าหน้าที่เทมารวมเป็นยอดเดียวใส่ไว้กล่องพากลับ จึงเป็นห่วงว่าจะทำอย่างไรกับส่วนนั้น ทุกวันนี้อยากได้เงินส่วนนั้นและโฉนดที่ดินกลับมาโดยเร็วจะได้ส่งมอบคืนให้กับเจ้าของ ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน