รวบแล้ว 1 ราย เครือข่ายแก๊งตุ๋น อดีตหัวหน้างาน กฟผ. วัย 81 ปี โอนเงิน 22 ล้าน ตามจับได้ที่ จ.หนองคาย รับหน้าที่เปิดบัญชีม้า
วันที่ 25 มิ.ย.2567 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 นำกำลังพร้อมหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ. 528/2567 ลงวันที่ 17 มิ.ย.67 เข้าจับกุม นางอัจฉรา (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาวจ.หนองคาย
ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
,เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี “
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่าน นายไพรสัณต์ อายุ 81 ปี อดีตหัวหน้างานด้านวางแผนธุรกิจสายงานด้านเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถูกมิจฉาชีพแต่งกายปลอมเป็นตำรวจวิดีโอคอลมาหลอกว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายพัวพันกับการทุจริตในหน่วยงานราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีผู้ร่วมทุจริตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่-ผู้น้อยกว่า 100 คน
โดยอ้างว่ามีการนำเงินจากการทุจริต มาฝากผ่านบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โดยมิจฉาชีพแจ้งว่าเงินที่อยู่ในบัญชีของผู้เสียหายต้องตกเป็นของกลางในคดีอาญา แต่หากต้องไปสอบสวนที่โรงพักจะลำบาก จึงแนะนำให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอน โดยติดต่อกันผ่านทางไลน์
จากนั้นมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้ส่งรูปภาพอ้างว่าเป็นคำสั่งจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งหมด รวมทั้งส่งภาพที่อ้างว่าเป็นคำสั่งของ สำนักงาน ป.ป.ช. ให้ผู้เสียหายโอนเงิน หากผู้เสียหายไม่ทำตามขั้นตอนจะถูกดำเนินคดี หรือ อายัดทรัพย์ ผู้เสียหายเกิดความกลัว จึงหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพจำนวน 19 ล้านบาท
โดยมิจฉาชีพยังหลอกให้ผู้เสียหายจำนองขายฝากบ้านอีก 3 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยอีก 450,000 บาท โดยให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยเดือนละ 37,000 บาท และให้คืนเงินต้น 3 ล้านบาท ที่เอาบ้านไปจำนองขายฝากไว้ภายในระยะเวลา 1 ปี หลังได้เงินจากจำนองขายฝากบ้านอีก 3 ล้านบาท ก็ได้โอนเงินให้แก่มิจฉาชีพไป รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 22,095,000 บาท
นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังแจ้งให้โอนเงินเป็นค่าค้ำประกันทรัพย์สินที่โอนไปให้มิจฉาชีพอีก 2.2 ล้านบาท แต่ไม่มีเงิน จึงโทรศัพท์ปรึกษาลูกชายที่อยู่ต่างประเทศ จึงรู้ว่าพ่อน่าจะถูกมิจฉาชีพหลอก จึงรีบเดินทางกลับประเทศไทย พาพ่อเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ธนาคม จันทร์ชาวนา พนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2
ต่อมา ทางชุดสืบสวนบก.สอท.2 ทำการสืบสวนจนทราบว่า นางอัจฉรา กับพวกรวม 8 คน เป็นผู้ร่วมขบวนการของแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในการเปิดบัญชีม้าทั้ง 8 ราย โดยติดตามจับกุมตัวนางอัจฉราได้ในพื้นที่จ.หนองคาย
จากการสอบสวนนางอัจฉรา ให้การยอมรับว่าได้เปิดบัญชีให้ผู้อื่นนำไปใช้ โดยไม่รู้ว่าจะถูกนำไปใช้ในการกระทำผิด จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป