สพม.บุรีรัมย์ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผอ.โรงเรียนมัธยมดัง ปมนักเรียนฮือถือป้ายประท้วงขับไล่ กล่าวหาบริหารไม่โปร่งใส แถมใช้คำพูดบูลลี่ นร.กลุ่ม LGBTQ
วันที่ 17 ก.ค.2567 จากกรณีนักเรียนโรงเรียนมัธยมในพื้นที่ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ รวมตัวกันถือป้ายประท้วงกล่าวหาการทำงานของ ผู้อำนวยการโรงเรียน ว่าไม่โปร่งใส ไม่ใส่ใจนักเรียน ทั้งยังมีการใช้คำพูดในลักษณะบูลลี่นักเรียน กลุ่ม LGBTQ ถือป้ายข้อความ ผอ.ขายฝัน ครูต่างชาติอยู่ไหน ครูเชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศอยู่ไหน หนังสือเรียนอยู่ไหน เสื้อกาวน์ยังไม่ได้ครบ บริเวณหอประชุมโดมภายในโรงเรียน
ล่าสุดเรื่องนี้ นายกฤษ ละมูลมอญ ผอ.สพม.บุรีรัมย์ ปิดเผยว่า หลังทราบว่ามีนักเรียนถือป้ายประท้วงเกี่ยวกับการบริหารงานของ ผอ.และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เบื้องต้นได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่โรงเรียนด้วยตัวเอง ก็พบว่ามีการประท้วงเรียกร้องของนักเรียนจริง ซึ่งได้สั่งตั้งกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง หากพบมีมูลตามที่ร้องก็จะตั้งกรรมการสอบตามขั้นตอน
โดยอาจจะมีคำสั่งให้ย้าย ผอ.มาช่วยราชการนอกพื้นที่ก่อน จนกว่าการสอบจะแล้วเสร็จเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่หากผลสอบพบว่า ผอ.บริหารไม่โปร่งใสจริงและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมตามร้องก็จะต้องย้ายออกนอกพื้นที่ และคณะกรรมการก็จะพิจารณาลงโทษตามระเบียบวินัย ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันเดียวกัน นักเรียนชั้นม.5 ตัวแทนนักเรียนที่ประท้วง บอกว่า ที่พากันถือป้ายประท้วงเพื่อต้องการเรียกร้องสิทธิ์ และให้เกิดการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารงานของผอ. อาทิ นักเรียนตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.6 ได้จ่ายเงินค่าเสื้อกาวน์กางเกงวอมไป รวมถึงค่าหนังสือเรียนไปแล้วตั้งแต่เปิดเทอม แต่จนถึงขณะนี้หลายคนก็ยังไม่ได้เสื้อกาวน์และหนังสือเรียนเลย ห้องเรียนหลายห้องพัดลมชำรุดใช้การไม่ได้ก็ไม่ซ่อม แต่ห้อง ผอ.กลับมีแอร์ถึง 2 ตัว แสดงให้เห็นว่าผอ.นึกถึงแต่ความสบายของตัวเอง แต่กลับไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของนักเรียนเลย
” ยังพูดประชดว่าถ้านักเรียนไม่สบายใจว่า ผอ.มีแอร์ 2 ตัว ก็จะถอดแอร์ออก 1 ตัว แทนที่จะนำพัดลมที่ชำรุดไปซ่อม ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด และกรณีที่ขายฝันเปิดเรียนห้องกิ๊ฟในระดับชั้น ม.1 และ ม.4 ก็มีการเรียกเก็บเงินจากนักเรียนไป บอกว่าจะมีครูต่างประเทศมาสอนภาษา มีครูไทยที่เชี่ยวชาญมาติวเสริมให้ และติดเครื่องปรับอากาศด้วย แต่กลับไม่เห็นมีครูต่างประเทศมาสอนเลย แถมห้องกิ๊ฟ ม.4 ก็ไม่ได้เปิดสอนจริง เพราะประเมินไม่ผ่าน แต่เก็บเงินนักเรียนไปแล้วไม่เห็นพูดว่าจะรับผิดชอบยังไง จึงอยากให้มีการตรวจสอบตามข้อเรียกร้อง ”
นักเรียนอีกคน ระบุ นอกจาก ผอ.จะไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของนักเรียนแล้ว ยังมีการใช้คำพูดในลักษณะบูลลี่เพศสภาพของนักเรียนด้วย นักเรียนที่ได้ยินก็รู้สึกกระทบสภาพจิตใจ ที่สำคัญเป็นผู้บริหารไม่ควรจะใช้คำพูดแบบนี้ ทั้งที่ปัจจุบันทุกเพศมีความเท่าเทียม อยากให้ ผอ.พิจารณาตัวเอง