หนุ่มขับกระบะ จัดเต็มเครื่องเสียง เปิดเพลงลั่นถนน เจอตำรวจเรียกตรวจ ตกใจเหยียบคันเร่งซิ่งหนี จนมุม จับเป่าเมา แอลกอฮอล์พุ่งปรี๊ด 234 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
วันที่ 31 ก.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา รับแจ้งจากประชาชนสัญจรอยู่ บนถนนพหลโยธิน ขาออก ช่วงผ่าน ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถกระบะเปิดเพลงเสียงดัง ขับส่ายไปส่ายมา จึงจัดกำลังรถสายตรวจรถยนต์ไปตรวจสอบ
พบรถกระบะ แบบ 4 ประตู สีแดง ทะเบียน กรุงเทพมหานคร เครื่องเสียงติดตั้งมาเต็มหลังกระบะ เปิดเพลงเสียงดัง ขับส่ายไปส่ายมา จึงได้เรียกตรวจ ทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดสัญญาณไฟเรียกตรวจ รถกระบะเร่งเครื่องขับหลบหนีด้วยความเร็ว เปลี่ยนเลนไปมา รถยนต์ที่สัญจรต้องหลบกันด้วยความตกใจ เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปพร้อมกับวิทยุสกัดจับ

หนุ่มขับกระบะ จัดเต็มเครื่องเสียง เปิดเพลงลั่นถนน เจอตำรวจเรียกตรวจ ตกใจเหยียบคันเร่งซิ่งหนี ก่อนจนมุม จับเป่าเมา แอลกอฮอล์พุ่งปรี๊ด 234 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
กระทั่งมาถึงบริเวณ กม.49 ถนนพหลโยธิน(ขาออก) ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน สามารถหยุดรถกระบะคันดังกล่าวได้ จึงทำการตรวจค้น พบคนขับชื่อ นายมงคล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี
สอบถามพูดคุยมีกลิ่นแอลกอฮอล์ จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมกับการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย โดยวิธีการเป่า พบมีปริมาณแอลกอฮอล์ 234 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
จากการสอบถาม นายมงคล ยอมรับว่า ขับรถมาจาก จ.นนทบุรี ก่อนขับรถได้ดื่มสุรามาและกำลังจะมาทำธุระที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จนมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ด้วยความกลัวว่าจะถูกเป่าแอลกอฮอล์ จึงขับรถหนีด้วยความเร็ว ยอมรับผิด
นายมงคล กล่าวต่อว่า ขอฝากเตือนเพื่อน ๆ สายดื่ม ถ้าดื่มแล้วอย่ามาขับรถดีกว่า นอนอยู่บ้านให้สบายใจ ออกมาขับรถจะเกิดอันตรายกับคนอื่นและผิดกฎหมายด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้คุมตัวนายมงคลส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา 1.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 2.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ และ 3.เป็นผู้ขับขี่รถในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่ากฎหมายกำหนด