จากกรณีนางหวอง เสงี่ยมสูงเนิน อายุ 90 ปี อยู่บ้านเลขที่40/1 ม.6 ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ถูกทิ้งอยู่ลำพังภายในบ้านพักในสวนหลังหมู่บ้านของชาวบ้าน บ้านโป่งแดง ม.1 มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว มุงด้วยหลังคาสังกะสีมีสภาพผุพัง โดยเฉพาะกำแพงบ้านซึ่งเป็นอิฐบล็อก ผุพังจนเป็นรูรอบบ้าน นางหวอง ต้องใช้เศษผ้าปิดรูไว้กันสัตว์มีพิษเข้าไปกัด ต่อย ภายในบ้าน อีกทั้งเสาตัวบ้านถูกปลวกกัดกินทั้งหลัง ห้องน้ำก็ไม่มีประตูปิด สภาพความเป็นอยู่มีเพียงที่นอนเก่า ที่ใช้นอนมานานหลายปีแล้ว (อ่านข่าวย้อนหลัง : สุดเวทนา ยายวัย 90 ใช้ชีวิตลำพัง -อยากพบหน้าลูก ครั้งสุดท้าย ก่อนหมดลมหายใจ)
คืบหน้าล่าสุดวันที่ 6 เม.ษ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีที่ทางนางโสภา ทองเรือง และครอบครัวของมะเดื่อชุมพร ได้เปิดรับบริจาคเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือนางหวอง ปัจจุบันมียอดเงินบริจาคกว่า 200,000 บาท ทางด้านนายอำเภอขามทะเลสอ พัฒนาสังคมจังหวัดนครราชสีมา หน่วยทหารจากกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยงานราชการต่างๆ นำเงินบางส่วนมาสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับนางหวอง เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เมื่อมีการนำเสนอข่าวออกไป นางประวิง ขวัญเมือง อายุ 65 ปี ได้เปิดเผยว่า เป็นลูกสาวแท้ๆ ของนางหวองฯ แต่ไปทำงานอยู่ที่ จ.แพร่ เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว โดยจะติดต่อกับนางหวอง ผ่านจดหมายตลอด ต่อมาสามีของยายซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของตนป่วยหนัก นางหวอง จึงขายบ้านนำเงินมารักษาพ่อ แต่พ่อก็เสียชีวิตลงในที่สุด เพื่อนบ้านสงสารจึงให้นางหวอง มาอยู่ที่บ้านพักในสวนหลังหมู่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากนั้นตนไม่ทราบเรื่อง และไม่สามารถติดต่อนางหวอง ได้อีกเลย เมื่อออกตามหาก็ได้รับข่าวว่าเสียชีวิตแล้ว จากนั้นเมื่อตนเห็นข่าวแม่ถูกทอดทิ้ง จึงรีบเดินทางมาหาแม่ทันที รู้สึกดีใจที่ได้พบแม่และจะดูแลให้ดีที่สุด
ด้านนางหวอง เผยว่า ฝากขอบคุณน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ และหน่วยงานต่างๆ ที่ช่วยกันบริจาคเงินและเข้าช่วยเหลือสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับตนเอง อีกทั้งยังทำให้ได้พบนางประวิง ลูกสาวแท้ๆ อีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตในช่วงบั้นปลายมีความสุขที่สุด
