จับ สาวหลอกแต่งงาน หนุ่มจนหมดตัว ติดคุกไม่เข็ด อ้างเป็นญาติ ผบ.เรือนจำ ตุ๋นเหยื่อสูญอีก5ล้าน เผยพฤติกรรมสุดแสบ เหยื่อถูกหลอกแต่งเผยสุดช้ำ
วันที่ 10 ส.ค.2567 พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ต.ดำรง หีบแก้ว สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับ น.ส.สุนิสา ถิ่นถาน อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลแขวงอุดรธานี ที่ จ 110/2567 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2567 โดยกล่าวหาว่า “ยักยอกทรัพย์” โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เขตสุขุมวิท กทม.
พ.ต.อ.ฉกาจน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.อรรคพล วงษ์ฤทธิวัลย์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจาก สภ.เมืองอุดรธานี ว่า น.ส.สุนิสา ถิ่นถาน อายุ 30 ปี ชาวเมืองเลย อดีตผู้ต้องขังหญิงในคดี ฉ้อโกง โดนจับเมื่อปี 2564 ได้พ้นโทษออกมา แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรม ขณะอยู่ในเรือนจำ ตีสนิทเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกัน หลอกถามเรื่องส่วนตัว เมื่อพ้นโทษออกไป ได้ไปพบญาติผู้ต้องขัง อ้างว่าเป็นญาติกับ ผบ.เรือนจำกลางอุดรธานี
โดยอ้างว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องขัง ลดโทษ และทำให้พ้นโทษก่อนกำหนด แต่ต้องใช้เงินในการดำเนินการ ทำให้ญาติผู้ต้องขังหลงเชื่อ ขณะที่ติดต่อพูดคุยกัน น.ส.สุนิสา ได้ขอยืมนาฬิกาโรเล็กซ์ กระเป๋าหลุยส์ สปีดี้ และรถยนต์ แต่ไม่นำมาคืน พอทวงถามก็บ่ายเบี่ยงอยู่เรื่อยมา จึงมาแจ้งความดำเนินคดี ความเสียหายรวมประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
นอกจากนี้ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อ น.ส.สุนิสา อีก 2 ราย โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค.67 นายกิตติวัฒน์ สีหาวัจร์ อายุ 24 ปี ลูกชายเจ้ากิจการโต๊ะจีนโจ๊กชุมแพเงินไหลมา และนายพชรพุฒิ ภดรศักดิ์ชัย อายุ 25 ปี เจ้าของร้านเรือนแม่ศรีเว็ดดิ้ง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความที่ สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น โดยร่วมกันให้การว่า โดน น.ส.สุนิสา เก่งตัน อายุ 30 ปี อ้างว่าเป็นเจ้าสาว มาจ้างให้จัดโต๊ะจีนในงานแต่งงาน 20 โต๊ะๆละ 1,300 บาท รวมเป็นเงิน 26,000 บาท และมาเช่าชุดแต่งงาน
และให้นายพชรพุฒิ จัดสถานที่แต่งงาน ในราคา 18,700 มัดจำไว้ 2,000 บาท คงเหลือ 16,700 บาท โดยจัดงานที่ร้านซีเคร็ท ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น หลังเสร็จงาน ก็ยังไม่ได้รับเงินค่าโต๊ะจีน และค่าเช่าชุดจัดงานแต่งเลย จึงมาแจ้งตำรวจดำเนินคดีกับ น.ส.สุนิสา
นายสิทธิชัย หรือโอ อายุ 21 ปี เจ้าบ่าวป้ายแดงที่แต่งงานกับ น.ส.สุนิสา กล่าวว่า รู้จักกันทางสื่อออนไลน์ เฟซบุ๊ก จากนั้นแช็ตคุยกัน น.ส.สุนิสา เป็นเจ้าของร้านซีเคร็ท บาร์ มีแฟนเป็นคนจีน “พวกจีนเทา” ได้ชวนตนมาทำงานที่บาร์ด้วย ตนจึงไปทำงานที่บาร์พบว่า น.ส.สุนิสา ทำตัวหรูใช้กระเป๋าแบรนด์เนม ขับรถหรู
ต่อมา น.ส.สุนิสาชวนตนจัดงานแต่งงานเพื่อแก้กรรม ต่อชะตาชีวิต ตนจึงเข้าพิธีแต่งงานเพื่อช่วยเหลือ โดยผู้หญิงจัดงานเองหมดทุกอย่าง ทั้งสินสอดที่ไปเช่ามา หลังจากแต่งงาน ตนก็ถูกยึดทรัพย์สินจนหมดทุกอย่าง
ทั้งเงินบัญชีก็ถูกถอนจนเกลี้ยง คอมพิวเตอร์ของตนก็นำไปขาย ยึดมือถือไม่ให้เล่น และชวนตนจดทะเบียนด้วย แต่ตนไม่กล้าจดเพราะกลัวแฟนจีนเทาของ น.ส.สุนิสา ซึ่ง น.ส.สุนิสา ได้มีการพูดข่มขู่ว่า รู้จักกับจีนเทา ต้องเชื่อฟัง หากไม่เชื่อฟังจะให้แฟนจีนเทาจัดการ ตนจึงไม่กล้าโวยวาย
พ.ต.อ.ฉกาจน์ เปิดเผยต่อว่า จากการสอบสวน น.ส.สุนิสา ให้การภาคเสธว่า แค่ยืมรถมาใช้แต่ยังไม่ได้ส่งคืน ซึ่ง น.ส.สุนิสา มีพฤติกรรมหลอกลวงผู้อื่นอยู่เป็นประจำ อ้างแฟนเป็นจีนเทา หลอกแต่งงาน กักขังหน่วงเหนี่ยว เบี้ยวค่าแต่งงาน อ้างเป็นญาติ ผอ.เรือนจำกลางอุดรธานี เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น
ถูกจับก็ไม่สำนึกผิด ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติการต้องคดีอาญาพบว่า เคยถูกดำเนินคดีอาญามาแล้ว 7 คดี 7 หมายจับ หากประชาชนท่านใดเคยได้รับความเดือดร้อนจากการถูกหลอกลวงจาก น.ส.สุนิสา สามารถติดต่อตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ในการดำเนินการตามกฎหมายเพิ่มให้กับ น.ส.สุนิสา ต่อไป