เลขาธิการป.ป.ช. ลุยปมบุกรุกป่าสงวนฯป่าคำใหญ่-คำขวาง หลังมีการร้องเรียน นายทุน-จนท.รัฐ มีเอี่ยวบุกรุกป่าด้วย
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคำใหญ่-คำขวาง อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงพื้นที่กรณีมีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าคำใหญ่-คำขวาง ต.หนองขาม ต.หนองหมื่นถ่าน และต.หน่อม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด
นายนิวัติไชย กล่าวว่า บริเวณนี้มีการประกาศเป็นพื้นที่ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2495 ซี่งมีประชาชานที่ทำกินอยู่ก่อนประกาศเป็นพื้นที่ป่า แต่ก็คงมีไม่กี่ราย แต่ต่อมาก็มีการบุกรุกเพิ่มเติม จากเดิมหลักหมื่นไร่จนตอนนี้เหลือหลักพันไร่ เรามองเห็นปัญหา 2 ด้าน คือ ปัญหาของชาวบ้านที่เดือดร้อนต้องอพยพเข้ามา เพราะไม่มีที่ทำกิน แต่ในส่วนที่เป็นทรัพยากรที่เป็นต้นไม้ใหญ่ๆ โดยเฉพาะไม้ที่มีค่าก็ถูกตัดถูกทำลายไป มีกลุ่มนายทุนนำไม้ออกจากพื้นที่และปล่อยพื้นที่เป็นแหล่งเสื่อมโทรม
ฉะนั้นเมื่อประกาศเขตป่าแต่วันนี้กลับไม่มีสภาพป่า ขณะที่ทางรัฐบาล โดยมติคณะรัฐมนตรีได้ทยอยเอาป่าเหล่านี้ไปเข้าอยู่ในเขตพื้นที่ของสปก.บ้าง เปิดสิทธิให้แก่ราษฎรบางคน ซึ่งอาจจะไม่เคยอยู่แถวนี้เลย แต่มีความประสงค์อยากจะเข้ามาครอบครองที่ดินเพื่อทำการเกษตร ตรงนี้จึงเป็นปัญหาที่เราต้องเฝ้าระวัง เพราะตามหลักเกณฑ์จะมีการพิจารณาตามคุณสมบัติที่สามารถเข้ามาครอบครองพื้นที่ทำประโยชน์ได้ ซึ่งต้องดูให้ชัดเจน
นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า เบื้องต้นพบว่ามีปัญหาเรื่องการรังวัดแนวเขตป่าด้วย บางส่วนอาจทับซ้อนระหว่างเขตป่าสงวนกับพื้นที่จัดสรรของคทช. ซึ่งตนขอย้ำว่าราษฎรเดิมที่เคยทำมาหากินก่อนการประกาศเขตป่า พวกเขาก็มีสิทธิ ส่วนอีกกรณีคือมาครอบครองหลังประกาศเขตป่า แต่หากมีมติครม. กำหนดให้เขตป่าเสื่อมโทรมโดยจัดสรรให้ราษฎรทำกินต่อไปได้ แต่มันก็ยังมีพื้นที่ป่าที่ยังมีต้นไม้ใหญ่ๆ กลับถูกบุกรุก หากเราไม่ป้องกันต่อไปเราก็จะไม่เห็นเป็นพื้นที่ป่าอีก
นายนิวัติไชย ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ว่ามีข้อมูลอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องเรียนต่อป.ป.ช.ว่าบริเวณนี้มีการลักลอบตัดไม้ ปรับพื้นที่ให้มีสภาพเป็นพื้นที่ดิน จนกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม โดยพวกกลุ่มนายทุน และเจ้าหน้าที่รัฐ หลายจังหวัดมีปัญหาการบุกรุกป่าแบบนี้อีกเยอะ ดังนั้นประชาชนในพื้นที่ต้องรวมตัวกันรักษาป่า จนกลายเป็นป่าชุมชน เพราะก็ยังมีคนจ้องตัดไม้มีค่าตลอด ประชาชนในพื้นที่จะช่วยกันดูแลสอดส่อง และแจ้งหน้าที่ และป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐ ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ และเมื่อไหร่ที่เจ้าหน้าที่รัฐทุจริต ป.ป.ช.ก็ต้องเข้ามาตรวจสอบอย่างเช่นในพื้นที่นี้
ขณะที่ช่วงบ่าย นายนิวัติไชย ได้ลงพื้นที่ไปยังป่าชุมชนดงทำเล-ดอนใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อไปชมความสมบูรณ์ของสภาพป่าไม้พะยูงที่ได้รับรางวัล แสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนในพื้นที่ ที่มีการเฝ้าระวังและรักษาผืนป่าอย่างเข้มแข็งของชุมชน
ทั้งนี้พระอาจารย์ ดร.แสงจันทร์ วัดป่าดงทำเล ได้ทำพิธีบวชป่าไม้พะยูงอายุกว่า 500 ปี ซึ่งมีลำต้นขนาดใหญ่สมบูรณ์ เพื่อให้คนกลัวบาปในการลักลอบตัดไม้ สำหรับป่าชุมชนดงทำเล-ดอนใหญ่ ถือว่าเป็นผืนป่าสุดท้ายของร้อยเอ็ดที่มีไม้พะยูงกว่าพันต้นในผืนป่า 1,200 ไร่แห่งนี้