เมีย ปู่หลอนยา อ้าง มีคนสั่งฆ่า ก่อนพาหลาน 6 ขวบ โดดน้ำหนีดับ ญาติเตรียมเผาวันพฤหัสนี้ รพ.ผ่าศพชันสูตรแล้ว เหลือแค่แจ้งรายละเอียด
กรณีนายอินทร์ อภัยศิลา อายุ 48 ปี ชาวจ.บึงกาฬ หลอนยาบ้า จับหลานสาววัย 6 ขวบ โยนน้ำเสียชีวิต ตร.สอบให้การวกไปวนมา สารภาพเสพยา 2 เม็ด ก่อเหตุสลด แต่บอกกับญาติๆ ว่าหลานสาวถูกคนร้ายขับเก๋งมาชิงเอาไปเรียกค่าไถ่ จึงอุ้มหลานว่ายน้ำหนีคนร้าย แต่ทำหลานหลุดมือจมน้ำ เพราะตัวเองก็ใจจะขาดเนื่องจากน้ำลึก ตร.ยังไม่เชื่อคำให้การ ส่วนร่างหลานสาว ต้องนำไปชันสูตรที่แผนนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 ก.ย.67 นางรำพึง อภัยศิลา อายุ 51 ปี ภรรยานายอินทร์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลังจากรู้ข่าวร้ายลางานกลับมาบ้าน ที่จริงแล้วนายอินทร์ และหลานสาว โทรหาเกือบทุกวัน ถ้าหากวันไหนไม่ว่างรับ ตอนเย็นเลิกงานก็โทรกลับหา นางรำพึงรบเร้าให้กลับมาอยู่บ้านด้วยกัน ถึงขนาดข่มขู่ว่าหากไม่กลับจะฆ่าหลานทิ้งให้ตาย พร้อมกับฆ่าตัวเองตายด้วย ก็พูดขู่บ่อยๆ ไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นเรื่องจริง
ก็เคยบอกว่าจะกลับมาอยู่หลังปีใหม่ก่อน เพราะตอนนี้ก็หาเงินเพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากถ้ากลับมาบ้านก็ไม่มีงานทำ เพราะไม่มีสวนยางกรีดเหมือนคนอื่น แนะนำว่าถ้าหากขับรถแบ็กโฮเหนื่อยปวดเนื้อปวดตัว ก็ให้พักผ่อนและก็หยุดไปเลยก็ดี ให้ทำหน้าที่ไปรับ-ส่งหลานไปโรงเรียนอย่างเดียว จึงซื้อปลามาลงบ่อให้เลี้ยง
ส่วนเรื่องเงินทองนั้น ก็ส่งให้ใช้ทุกอาทิตย์ แต่บางอาทิตย์ก็พันหรือพันกว่านอกจากนั้น ก็ยังมีลูกสาวอีกคนที่ทำงานอยู่ภูเก็ตส่งมาให้ใช้อยู่ หากไม่ไปซื้ออย่างอื่นเงินส่วนนี้ก็น่าจะพอใช้จ่ายสำหรับในครอบครัว 2 คนสามีกับหลานเท่านั้น อยากกินอะไรก็ซื้อฝากส่งมาให้กิน
นางรำพึง กล่าวต่อว่า สอบถามสามีว่าทำไมศพหลานจึงมีเลือดออกทางปาก จมูก ออกหู อ้างว่าหลานตกรถ 3 ครั้ง กระแทกกับหน้าปัดรถมอเตอร์ไซค์ หลุมสุดท้ายเป็นหลุมใหญ่ด้วย หลานก็ตกรถมอเตอร์ไซค์ก็ล้ม จึงทำให้มีเลือดออก มีความเชื่อว่าสามีฆ่าหลานแบบไม่รู้ตัว
พอกลับถึงบ้านแล้วจึงรู้ตัวว่าหลานจมน้ำตาย เลยคิดถึงหลาน จึงเปลี่ยนชุดใหม่ไปหาซื้อยาบ้ามากินอีก 7 เม็ด กินเช้า 3 เม็ด เย็นอีก 4 เม็ด เกิดหลอนและเบลอๆ ว่าจะมีคนมาฆ่า จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ที่ไปทำงานอยู่กรุงเทพฯเทียวกลับบ้านเรื่อย นี่ก็เพิ่งมาเมื่อ 2 อาทิตย์ ล่าสุดเขาโทรมาบอกว่า ถ้าไม่มา จะฆ่าหลานตาย ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับหลานสาวอย่างครั้งนี้
ส่วนศพเด็กหญิง 6 ขวบ ถูกส่งกลับมาจาก แผนกนิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว เมื่อเย็นวานนี้ โดยหลักฐานเป็นเพียงใบรับรองการตายมาเท่านั้น ส่วนใบชันสูตรในรายละเอียดจะต้องส่งตามมาทีหลัง
โดยญาติตกลงกันว่าจะฌาปนกิจศพ ส่งดวงวิญญาณของน้องในวันที่ 5 ก.ย.นี้ ที่ฌาปนกิจสถานของหมู่บ้าน เหตุที่เก็บไว้หลายวันก็เนื่องจากว่า ในหมู่บ้านมีผู้เสียชีวิต 3 ราย จึงต้องเข้าคิวในการเผา
ด้านยุติธรรมจังหวัดบึงกาฬ ลงพื้นที่เยี่ยมญาติ โดยแนะนำว่าให้เตรียมหลักฐาน เพื่อส่งคณะกรรมการยุติธรรมจังหวัด เพื่อพิจารณาจ่ายเงินชดเชยเยียวยา ซึ่งจะได้เงินประมาณ 120,000 บาท โดยผู้มีสิทธิ์ได้รับก็คือบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ส่วนปู่ทวดย่าทวดและนางรำพึงย่าอีกคน ที่เลี้ยงดูมาแต่เด็ก ไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย