ชาวบ้านเวทนา2หนูน้อย สุดทนแจ้งจับ 3ผัวเมียมั่วสุมเสพยาบ้า-น้ำท่อม ผลัดกันเลี้ยงลูก ผัววัย48 สารภาพ เราสามคนผัวเมีย จะขอเข้าสู่กระบวนการบำบัด
วันที่ 13 ก.ย.2567 พ.ต.ท.วิจิตร สามัญเมือง สว.สส.สภ.สลุย จ.ชุมพร รับแจ้งจากพลเมืองดว่า มีสามคนผัวเมีย อาศัยบ้านอยู่ข้างสำนักสงฆ์เขาสามล้าน ม.1 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีพฤติกรรมมั่วสุมเสพยาเสพติดกันภายในบ้าน
โดยบ้านหลังดังกล่าว มีลูกชายและหลานสาว วัย 6 ปี กับ 4 ปีของทั้งสามอยู่ด้วย หวั่นจะเกิดเหตุร้ายและส่งผลกระทบต่อเด็ก หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจพร้อมทหารชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ชป.กร.)กองกำลังเทพสตรี และฝ่ายปกครอง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ม.1 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ปลูกอยู่บนเชิงเขาริมถนนสายบ้านร้านตัดผม-เขาสามล้าน เจ้าหน้าที่พบนายธวัชชัย อายุ 29 ปี และ น.ส.สายฝน อายุ 28 ปี ซึ่งทั้งสองคนนี้เป็นสามีภรรยากัน โดยมี นายสุภาพ อายุ 48 ปี เป็นเจ้าของบ้าน โดยทั้ง 3 คน มีท่าทางพิรุธลุกลี้ลุกลน
เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจค้นภายในบ้านและรอบบ้าน ซึ่งพบเพียงเศษกระดาษฟรอยและอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้สำหรับเสพยาบ้า ถูกทิ้งไว้ในกองขยะ และในห้องนอน ยังพบหลอดยาลมแบบพลาสติกใสชนิดพกพามีเศษยาบ้าแตกหล่นอยู่ แต่ไม่พบยาบ้าแต่อย่างใด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งนำปัสสาวะของนายสุภาพและนายธวัชชัย มาตรวจหาสารเสพติดในร่างกายพบเป็นสีม่วงทั้งคู่
สอบสวนนายธวัชชัย ให้การว่า ตนกับ น.ส.สายฝน นั้นเป็นสามีภรรยากัน อยู่ด้วยกันมา 9 ปี จนมีลูกชายคนหนึ่งชื่อ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) โดยทำมาหากินแถวบ้านของนายวัชชัย ที่ ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ต่อมาตนเองและ น.ส.สายฝน ภรรยาได้รู้จักกับนายสุภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มเสพยาเสพติดด้วยกัน
นายธวัชชัย ให้การต่อว่า กระทั่งราว 2-3 เดือนที่ผ่านมา น.ส.สายฝน ได้หนีนายธวัชชัยและลูกชาย เพื่อมาอยู่กินกับนายสุภาพ ที่บ้านหลังนี้ แต่ด้วยความที่สงสารลูกร้องไห้ทุกวัน หลังจากที่ น.ส.สายฝน หนีออกจากบ้าน ตนไม่รู้จะทำอย่างไร จะไปตาม น.ส.สายฝน ให้กลับบ้านมาสร้างครอบครัวใหม่ แต่ทางครอบครัวตนเอง ไม่ยอมรับ ตนเองจึงตัดสินใจ อุ้มลูกหนีออกจากบ้าน มาอาศัยชายคาเดียวกัน สามคนผัวเมีย เสียเลย เพื่อจะลูกต้องไม่กำพร้าแม่
ขณะที่นายสุภาพ ให้การว่า เราทั้งสามก็ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพร้อมที่จะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันเพราะทุกคนรับได้ ส่วนเรื่องยาบ้านั้น เราเป็นเพียงผู้เสพยาเสพติดเท่านั้น โดยยาเสพติดที่เสพนั้นก็เพียงยาบ้า และน้ำต้มกระท่อมเท่านั้น ยาบ้า ที่นำมาเสพกันนั้น ตนจะเป็นคนสั่งซื้อผ่านทางเฟซบุ๊ก และจะนัดรับใกล้บ้าน โดยแต่ละครั้งจะซื้อมาเสพ ครั้งละ 5 เม็ด โดยนายสุภาพ จะเสพ วันละ 2 เม็ด ส่วนนายธวัชชัย จะเสพ 2 เม็ด ส่วน น.ส.สายฝน จะเสพยาบ้า 1 เม็ด ที่เหลือ
ส่วนที่มีชาวบ้านแจ้งตำรวจไปว่า เสพต่อหน้าเด็กนั้น ตนเองก็ยืนยันว่า เมื่อซื้อยาบ้ามาแล้ว จะแบ่งกันแล้วคอยหมุนเวียนนั่งคุมเด็กทั้งสองไว้ให้อยู่เฉพาะบริเวณหน้าบ้านเท่านั้น ส่วนคนที่จะเสพ ก็จะเดินไปแถวกองขยะ หลังบ้าน เป็นบริเวณเสพยาบ้า ทุกครั้งที่เสพยาบ้า จะไม่ให้เด็กเห็น เพราะรู้ว่ายาเสพติดเป็นสิ่งไม่ดี แต่ที่เสพก็เพื่อทำงานเท่านั้น
นายสุภาพ กล่าวอีกว่า เราสามคนผัวเมีย จะขอเข้าสู่กระบวนการบำบัดผู้ป่วยติดยาเสพติด ตามสิทธิกฎหมายทุกประการ เพื่อขอโอกาสกลับมาเป็นคนดีของสังคมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกคำให้การพร้อมให้ทั้งสามไปรายงานตัวทุกครั้งระหว่างอยู่การบำบัดรักษาตามเงื่อนไขของ รพ.ส่วนเด็กทั้งสอง จะมอบให้ญาตินำไปดูแลเป็นการชั่วคราวก่อนนำคืนสู่โอบอกครอบครัวภายหลังต่อไป