หญิงเปิดบ้านช็อก จะให้คนพักช่วงน้ำท่วม เจอศพชายหัวขาด นอนอยู่ในน้ำ

หญิงเปิดบ้านช็อก จะให้คนพักช่วงน้ำท่วม เจอศพชายหัวขาด นอนอยู่ในน้ำ สภาพร่างเปื่อยยุ่ย ยังไม่รู้เป็นใคร ตรวจไม่พบการแจ้งคนหายในพื้นที่

วันที่ 17 ก.ย. 2567 พ.ต.ท.เนติพงษ์ จำนงนิตย์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตที่บ้านศิลาเลข หมู่ 7 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ หน่วยกู้ภัยร่วมใจอำเภอท่าบ่อ หน่วยกู้ชีพ อบต.ลโพนสา และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง (จุดบางขุนเทียน)

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ พบศพชายสวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น สภาพร่างกายเปื่อย จมอยู่ในน้ำ โดยส่วนของศีรษะถูกพบอยู่ใต้เท้าขวา ในร่างผู้ตายไม่พบเอกสารยืนยันตัวตน

ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบเชือกถูกมัดกับคานใต้ถุนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยแพทย์ชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 เดือน

สอบถามนางอมรรัตน์ ปัจชามาตย์ อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านอีกหลังของตน ไม่มีคนอยู่ ตนปิดบ้านไว้ตั้งแต่ปี 2551 แต่ช่วงนี้จะเปิดบ้านไว้เพื่อให้คนที่น้ำท่วมบ้านได้มีที่พัก

นางอมรรัตน์ กล่าวต่อว่า วันนี้มีคนกำลังจะเข้าไปพักหลบน้ำท่วม มาแจ้งว่าพบศพคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน ตนจึงรีบมาดูพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน เพราะตนปิดบ้านไว้นานแล้ว มาเปิดช่วงนี้เพื่อให้ผู้ที่ไม่มีที่พักช่วงน้ำท่วมได้มาพักอาศัย

นางอมรรัตน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้มีคนเคยบอกชาวบ้านว่ามีคุณตานอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านทำไมไม่เอาไปเผา แต่ไม่มีคนเชื่อ เพราะคิดว่าคนที่พูดสติไม่สมประกอบ กระทั่งมาเจอศพในวันนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจเข้ามาพักที่บ้านหลังนี้ แล้วผูกคอฆ่าตัวตาย เพราะมีหลักฐานเป็นเชือกที่ห้อยลงมาจากคานบ้าน และศีรษะที่หลุดออกจากลำตัวเหมือนถูกเชือกรัดมานานจนขาด หรือผู้ตายอาจหลบมาพักแล้วป่วย ทำให้เสียชีวิต ศพอยู่ในน้ำทำให้ศพเปื่อยยุ่ย ถูกสัตว์เข้ามากัดแทะ ทำให้คอหลุดออกจากลำตัว ส่วนคนสติไม่สมประกอบอาจมาพบเห็นศพนานแล้วและบอกชาวบ้านละแวกดังกล่าว แต่ไม่มีคนสนใจ เพราะคิดว่าคนสติไม่สมประกอบพูด

จากการตรวจสอบในพื้นที่ จ.หนองคาย ยังไม่พบว่ามีการแจ้งบุคคลสูญหาย เจ้าหน้าที่จะนำศพไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เพื่อรอดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป หากประชาชนท่านใดสงสัยว่าเป็นญาติพี่น้องสามารถนำหลักฐานมาติดต่อที่ สภ.ท่าบ่อ ได้ตลอดในวันและเวลาราชการ

ข้อมูล : มติชนออนไลน์