แม่ลั่นไม่รับศพ ตายไม่เผาผี หลังหนุ่มคลั่งถือมีดบุกขืนใจพี่สาว ก่อนแจ้งตร.จับ แต่ไม่หยุดอาละวาด สุดท้ายเจอยิงสวนดับ พบประวัติเพิ่งออกจากคุกแค่ 3 เดือน หลังข่มขืนเด็ก
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2567 พ.ต.อ.ฉกาจ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ หนุ่มคลั่งอาละวาดบุกจะข่มขืนพี่สาวและจะเผาบ้านตัวเอง ที่บ้านโนนผักหอม หมู่ 3 ต.วังสามหมอ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ กลับโดนนายกฤษณะ อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุคลั่งถือมีดอีโต้จะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ยิงกระสุนใส่หน้าอกได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สำหรับที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง โดยคนร้ายหลบอยู่ชั้นบนของบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพยายามเกลี้ยกล่อม แต่นายกฤษณะก็ไม่ยอมลงมาบ้าน ตร.จึงได้ปฏิบัติการตามยุทธวิธี สเปรย์พริกไทยก็เอาไม่อยู่ ยิงกระสุนยางก็ไม่ระคายผิว จังหวะนั้นนายกฤษณะได้คว้ามีดวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฯ ขณะปีนบันไดขึ้นไปหา แต่ไม้ง่ามป้องกันเอาไว้ได้ก่อน ยังไม่ยอมหยุด ถือมีดพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่อีกฯ เจ้าหน้าที่ฯ จึงตัดสินใจยิงใส่นายกฤษณะ
โดยผู้เป็นแม่และพี่สาวต่างพากันโล่งอก แม้จะเป็นลูกในไส้ น้องในสายเลือด ต่างกันยกมือท่วมหัว เพราะนายกฤษณะมีประวัติเสพยาจนคลั่ง มาตั้งแต่อายุ 18 ปี เคยบุกจะข่มขืนพี่สาวหลายครั้ง และก่อเหตุจะเผาบ้าน จนตร.มาระงับเหตุ หลังตร.วิสามัญ ทางแม่นายกฤษณะไม่ขอรับศพลูกชายมาบำเพ็ญกุศล แบบตายไม่เผาผีเลย ทางแม่ขอมอบศพให้มูลนิธิไปเลย
ด้าน รอง ผบก.ตร.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เคสนี้ตร.สภ.วังสามหมอ รับแจ้งจากคนเป็นแม่ให้ไประงับเหตุที่บ้านโนนผักหอมว่าลูกชายเสพยาจนคลั่งบุกจะข่มขืนพี่สาว จะเผาบ้าน และลับมีดเอาไว้ทำร้ายคนในหมู่บ้าน ตร.เราก็ไประงับเหตุ จนสุดท้ายต้องวิสามัญ เพราะหนุ่มคนนี้สู้ถือมีดวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่
สำหรับนายกฤษณะมีประวัติติดคุก คดีข่มขืนเด็ก เพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 2-3 เดือน ก่อนเกิดเหตุเสพยาวันนั้น 18 เม็ดจนคลุ้มคลั่ง บุกจะข่มขืนพี่สาว พอข่มขืนไม่ได้ก็อาละวาดเผาบ้าน คนเป็นแม่ก็แจ้งตร. ซึ่งเราก็ทำตามยุทธวิธี
หลังเกิดเหตุแล้ว ทางครอบครัวไม่ขอรับศพไปบำเพ็ญกุศล มอบศพให้ตร. ซึ่งตำรวจเองก็รับไว้ไม่ได้ หากแม่ไม่เอาศพลูกไปบำเพ็ญกุศล ก็มอบศพให้มูลนิธิ แต่ต้องมาเซ็นยินยอม แม่ก็ยอม โดยบอกว่า จะเอาแค่กระดูกกลับบ้านแค่นั้น และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตร.ที่ปฏิบัติในครั้งนี้ด้วย