ระทึก ไฟไหม้ ร้านจักรยานยนต์ไฟฟ้า ลามวอด ร้านมือถือ-ธนาคาร เสียหายเป็นล้าน ผู้จัดการงง ก่อนปิดร้านถอดแบตเตอรี่ออกแล้ว ตร.เร่งสืบสวนหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 19 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สมเกียรติ ศุภสร พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ตึกแถว ซึ่งเป็นจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ในตัวอำเภอราษีไศล ตำบลเมืองคง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ หลังทราบเรื่องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานดับเพลิงเทศบาลตำบลเมืองคง และมูลนิธิกู้ภัยในพื้นที่ เข้าระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ต้นเพลิงเป็นร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มีประชาชนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมากด้วยความแตกตื่นและตกใจ เนื่องจากในพื้นที่ไม่เคยมีเหตุเพลิงไหม้กลางเมืองเช่นนี้มาก่อน โดยเพลิงลุกไหม้วอดจากภายในอาคารร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลเมืองคง นำสายดับเพลิงเข้าฉีดเข้าฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง แต่เพลิงมีแนวโน้มจะขยายวงกว้าง และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียง
ต่อมา นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ สั่งการให้ นายศราวุธ ทรงโฉม นายอำเภอราษีไศล พร้อมด้วย นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์ จึงประสานและระดมรถดับเพลิง ในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอราษีไศล อำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอศิลาลาด พร้อมรถดับเพลิงและรถบรรทุกน้ำกว่า 20 คัน เพื่อเข้ามาให้การช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไว้ได้
จากการสอบถามชาวบ้านซึ่งขายของในพื้นที่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เวลาประมาณ 17:00 น ได้ยินลักษณะคล้ายเสียงระเบิดดังมาจากในร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า หลังจากมีกลุ่มควันลอยออกมาจากภายในร้าน ก่อนเปลวไฟลุกขึ้นจากในตัวตึก แต่เนื่องจากตอนนั้นเป็นช่วงที่ร้านปิดร้านแล้ว ตนและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาระงับเหตุ
นายจตุรงค์ จงภักดี ผู้จัดการร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ตนทราบจากลูกน้องว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้จึงรีบมาดู ซึ่งเหตุเกิดหลังจากที่ปิดร้านไปแล้ว โดยส่วนใหญ่ของภายในร้านประกอบด้วย จักรยานยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า ซึ่งมูลค่าแล้วแต่รถแต่ละคัน ซึ่งตีเป็นมูลค่าประมาณ 600,000 บาท
ซึ่งร้านจำหน่ายรถไฟฟ้า มีหลายสาขาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน โดยก่อนปิดร้านทุกครั้ง มีตรวจสอบสภาพรถและถอดแบตเตอรี่ ไม่ให้เชื่อมต่อกับตัวรถ ซึ่งตนไม่ทราบว่า สาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เกิดจากสาเหตุใด
จากการตรวจสอบเบื้องต้น เพลิงไหม้ลุกลามตึกแถวได้รับความเสียหายประมาณ 7 คูหา ซึ่งประกอบด้วย ร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า 4 คูหา ร้านจำหน่ายและรับซ่อมโทรศัพท์มือถือ 1 คูหา ธนาคาร 1 คูหา และร้านขายก๋วยเตี๋ยว 1 คูหา
ส่วนทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจาก ประกอบด้วย จักรยานยนต์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า และรถสามล้อไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในร้าน และอุปกรณ์ในร้านโทรศัพท์ และ ธนาคาร รวมมูลค่าความเสียประมาณ 1 ล้านบาท โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จะลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ที่แท้จริงต่อไป