วันที่ 9 เม.ย. นายธนิต นุ่นลอย หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจาก นายบุญรอด กวยแก้ว กำนันตำบลวังโป่ง ว่ามีสัตว์ป่าหายาก หลงเข้ามาในเขตหมู่บ้าน และหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องครัวของบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าของไม่อยู่บ้าน จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน พร้อมอุปกรณ์จับสัตว์ รุดไปยังที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 115 หมู่5 ต.วังโป่ง อ.วังโป่ง ซึ่งเจ้าของบ้านคือ นายสุพัฒน์ เพชรคง อายุ 50 ปี แต่ไม่อยู่บ้าน เนื่องจากไปทำงานที่กรุงเทพฯและได้ปิดล๊อคบ้านไว้

ตรวจสอบพบว่าที่ประตูห้องครัว ซึ่งเป็นประตูแบบพีวีซี มีร่องรอยถูกพุ่งชนจนทะลุเป็นรู ภายในห้องครัว พบเก้งซึ่งเป็นสัตว์ป่าหายาก กำลังเดินวนไปวนมาและปีนป่ายอยู่ภายในห้องครัวเพื่อหาทางออกตลอดเวลา เจ้าหน้าที่เขตฯ ได้โทรประสานเจ้าของบ้านเพื่อขออนุญาตเปิดหลังคากระเบื้องจำนวน 3 แผ่น ก่อนนำอุปกรณ์จับสัตว์ ลักษณะเป็นบ่วงเชือก ขึ้นไปด้านบนและทำการหย่อนคล้องคอ ใช้เวลาราว 20 นาที จึงสามารถจับเก้งได้อย่างปลอดภัย ก่อนนำตัวไปพักฟื้นที่ หน่วยห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน โดยมีเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่11พิษณุโลก ตรวจรักษาและให้อาหาร เบื้องต้นพบว่าเก้งตัวดังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่บริเวณลำคอ หน้าแข้ง และกีบเท้า เนื่องจากการปีนป่ายขณะอยู่ในห้องครัว และเตรียมนำส่งสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ ตามลำดับต่อไป

นายธนิต กล่าวว่า เก้งตัวดังกล่าว มีสภาพสมบูรณ์ อายุประมาณ 6 ปี เป็นเก้ง เพศเมีย ความยาวลำตัวประมาณ 110 ซม.สูงประมาณ 70 ซม. กีบเท้า ยาว 3.5 ซม. กว้าง 3 ซม. โดยสาเหตุที่เก้งหลงป่า คาดว่าได้ลงมาหากินใกล้แหล่งชุมชน และอาจตกใจเสียงสุนัขเห่า จนวิ่งหนีเตลิดเข้ามาในเขตหมู่บ้าน ก่อนจะตกใจเห็นผู้คนจนกระโจนพุ่งชนประตู จนทะลุ เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวอยู่ใกล้แนวเขาผาโค้ง ห่างจากเทือกเขาย่า ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน เพียง 1.5 กิโลเมตรเท่านั้น

ด้านนางขวัญ ภักดีสมุด อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 ต.วังโป่ง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ผู้เจอเก้งคนแรก เปิดเผยว่า ตนเป็นญาติกับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และอยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร ขณะก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังจะออกไปซื้อน้ำมัน มาใส่รถจยย.และสังเกตเห็นเก้งตัวดังกล่าว มองทีแรกคิดว่าเป็นลูกวัวของชาวบ้านหลุดมา จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ทำให้เก้งตกใจ วิ่งกระโจนหนี จนชนประตู เข้าไปซ่อนตัวในห้องครัว ตนจึงรีบนำแคร่ไม้ไปวางปิดรูไว้ แล้วรีบแจ้งกำนัน ให้รับทราบพร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ มาจับเก่ง เพื่อนำไปรักษา และปล่อยคืนสู่ป่าตามธรรมชาติตามเดิม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน