เจ้าของร้านสัก เสียรู้ ชายอ้างกองปราบ ยศ ร.ต.ท. ฉกทองคำ 3 บาท พระเลี่ยมทองสูญกว่า3แสน เหตุเพราะไว้ใจหลังอ้างป่วยซึมเศร้าเมียทิ้งเลยช่วยให้ที่พักหลับนอน
วันที่ 15 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านสักลายดังกล่าว หมู่ 2 ตำบลบ้านเก่า อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ได้พบกับนายพรชัย หาญชัยภูมิ อายุ 29 ปี เจ้าของร้านสัก ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูยังที่นอนที่ได้จัดเตรียมไว้ให้กับชายคนดังกล่าวที่อ้างตัวเป็นตำรวจสังกัดกองปราบปราม ยศร้อยตำรวจโท โดยมีหมวกแก๊ปสีดำที่ผู้ก่อเหตุทิ้งไว้ดูต่างหน้า และไปดูที่บริเวณลิ้นชักที่เก็บพระซึ่งเหลือเพียงล็อกเก็ตพระอันเดียวที่ยังเหลืออยู่
จากการสอบถามสุพรชัย หาญชัยภูมิ เจ้าของร้านสักลายเล่าว่า ตนเจอกับนาย รัฐธรรมนูญ อินสม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่ร้านตัดผมของเพื่อนตนได้ไปชวนเพื่อนออกไปกินข้าวแล้วได้พบกับนายรัฐธรรมนูญ นั่งอยู่แล้วได้พูดคุยกัน ซึ่งนายรัฐธรรมนูญ ได้อ้างว่าตนเป็นตำรวจมาจากกองปราบยศผู้หมวด ได้มาเที่ยวพักผ่อนเพราะเป็นโรคซึมเศร้าเนื่องจากเลิกกับแฟน
ตนจึงได้ถามว่าพักอยู่ที่ไหนนายรัฐธรรมนูญตอบว่าพักอยู่ที่หอที่ตนเปิดร้าน พอตกเย็นมานายรัฐธรรมนูญจึงชวนตนและเพื่อนไปดื่มที่ร้าน พอเช้ามาตนก็ได้พูดคุยกันนับกันเป็นเพื่อนเพราะอายุใกล้เคียงกัน ตนจึงคิดว่าคนเป็นโรคซึมเศร้าต้องมีคนพูดคุยจึงได้ชวนมานอนพักที่ร้าน ต่อมาวันที่13ตนได้ออกไปกินหมูกระทะกันพอกลับมาประมาณเที่ยงคืนตนได้ถอดสร้อยทองออกเก็บไว้ในลิ้นชักห้องนอน
พอวันที่14ช่วงบ่ายนายรัฐธรรมนูญขอเข้าห้องน้ำตนจึงให้เข้าตามปกติเพราะติดงานสักให้ลูกค้าอยู่ พอช่วงเย็นวันที่14นายรัฐธรรมนูฐมาถามตนว่าเพื่อนเล่นพระด้วยหรอ ตนบอกว่าเล่นจึงได้นำพระมาให้เขาดู พร้อมกับถามราคาพระ พอช่วงกลางคืนนายรัฐธรรมนูญได้บอกกับตนว่าจะไปทำธุระที่กรุงเทพแล้วจะกลับมาใหม่นายรัฐธรรมนูญได้ทิ้งหมวกไว้ให้ใบหนึ่ง ตนจึงให้เพื่อนอีกคนขับรถไปส่งที่ท่ารถ พอตอนเช้าตนก็ทักหาอีกว่าเพื่อนจะกลับมาไหม
ตอนนี้อยู่ไหนแล้วเขาก็ไม่ตอบอะไร จนเพื่อนคนที่ไปส่งได้บอกว่าเมื่อคืนตอนไปส่งนายรัฐธรรมนูญนั้นเห็นว่าใส่ทอง ลายเดียวกับของตน หลังจากนั้นตนจึงไปดูที่ลิ้นชักปรากฏว่าหายไป เป็นทอง1บาท1เส้น2บาท1เส้นพร้อมพระเลี่ยมทอง หลังจากนั้นตนจึงได้มาเปิดถุงพระดูปรากฏว่าหายเช่นกัน ความเสียหายประมาณ3แสนบาท
ที่ตนเองนั้นเชื่อว่าเป็นตำรวจเพราะทรงการแต่งตัว ทรงผม เหมือนกับตำรวจมาก จนทำให้เชื่อขนาดอยู่ด้วยกันนั้นบางทียังมีโทรศัพท์เข้าเขายังเปิดลำโพงให้ฟังปลายสายยังเรียกผู้หมวด บางทีก็บอกว่าสารวัตรโทรมาบ้างเขาจะอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ
ขนาดไปเที่ยวกันยังมีตำรวจในพื้นที่เดินมากอดไหล่แล้วเหมือนมายืนคุ้มกันเลย จนทำให้ตนหลงเชื่อ ซึ่งปกติแล้วที่ร้านจะมีคนเข้าออกประจำแต่ของไม่เคยหายเลยจนมีนายรัฐธรรมนูญมา ตนอยากจะฝากถึงคนอื่นให้ระวังเพราะมิจฉาชีพมาได้หลายรูปแบบมาก