ชาวบ้านปากปรน หาดสำราญ จ.ตรัง ร่วม “ลากพระทางน้ำข้ามทะเล” ประเพณีหนึ่งเดียวในโลกที่สืบทอดกันมานานกว่า 110 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

วันที่ 25 ต.ค.2567 ที่ท่าเทียบเรือปากปรน (ชั่วคราว) ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ชาวชุมชนบ้านปากปรนและนักท่องเที่ยวกว่า 300 คน ได้ร่วมสืบสานประเพณีลากพระทางน้ำข้ามทะเล ซึ่งถือเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลกที่สืบทอดกันมานานกว่า 110 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 99 รายการ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาลของประเทศไทย

ทั้งนี้ ขบวนเรือประกอบด้วยเรือพายและเรือขบวนกลองยาว จำนวน 8 ลำ พร้อมกับเรือชาวบ้านอีกประมาณ 30 ลำ ร่วมลากเรือพระจากท่าเทียบเรือบ้านปากปรน มุ่งหน้าสู่แหลมจุโหย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ระยะทางไปกลับรวม 10 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีการอัญเชิญพระพุทธรูปและนิมนต์พระสงฆ์ประจำเรือ พร้อมการประโคมดนตรีพื้นบ้าน ทั้งโพน กลองยาว ฉิ่ง และฉาบ

นอกจากนั้น ระหว่างการลากเรือพระทางน้ำข้ามทะเล ยังมีการประกอบพิธีกรรมและกิจกรรมต่างๆทั้งบนฝั่งและกลางทะเลกันอย่างน่าสนใจและสนุกสนาน อาทิ การทำพิธีลอยกระทงเคราะห์กลางทะเล การซัดต้มและเกี้ยวพาราสีระหว่างเรือ การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน การแข่งขันขูดมะพร้าว การแข่งขันชกมวยทะเล

โดยประเพณีนี้เกิดขึ้นจากวิถีชีวิตของชาวประมงท้องถิ่น ที่ไม่สามารถร่วมประเพณีลากพระทางบกในช่วงวันออกพรรษาได้ เนื่องจากต้องออกทะเลไปหาปลาตามช่วงน้ำขึ้นน้ำลง ดังนั้นชาวบ้านจึงริเริ่มการลากพระทางน้ำข้ามทะเลขึ้นในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี เพื่อเป็นการทำบุญและระลึกถึงคุณพระแม่คงคา อันถือเป็นคุณค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวชุมชนบ้านปากปรน และใกล้เคียง

ขณะเดียวกันประเพณีนี้ยังถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น เกาะลิบง เกาะเหลาเหลียง เกาะตะเกียง เกาะเภตรา เกาะสุกร แหลมจุโหย และพื้นที่แห่งนี้ยังขึ้นชื่อด้านอาหารทะเลสดๆ ด้วย เช่น ปูม้า หอยตะเภา หอยเจดีย์ และหอยหลอด ที่มีรสชาติอร่อยเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นจุดบรรจบของน้ำจืดจากแม่น้ำตรัง และแม่น้ำปะเหลียน กับน้ำทะเลอันดามัน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน