คู่กรณี เผยอีกมุม ทะเลาะเดือดกลางถนน ยัน ไม่ได้ฟันวินจยย. ไม่ได้ชักมีดออกจากปลอก แถมถูกต่อยร่วง กระดูกหัวไหล่แตก กระดูกหน้าหัก ลุ้นต้องผ่าตัดมั้ย
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นแต่ใจเย็น ๆ ครับ เผื่ออยากได้ภาพ ที่กลับรถตรง mrt แยกนนทบุรี 1” โดยในโพสต์มีภาพเหตุการณ์ชายสองคนกำลังชกต่อยกันกลางถนน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 4 พ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง นายจิรายุ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชายเสื้อยืดสีเขียวที่ขับรถเก๋งซึ่งเป็นคู่กรณีกับ นายสายชล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี คนขับวิน จักรยานยนต์ตามที่ปรากฏภาพในคลิปเหตุการณ์ว่า นายจิรายุคนขับรถเก๋ง คว้าอาวุธมีดดาบออกมาถือในมือ ก่อนที่จะถูกนายสายชลเดินเข้ามาต่อยจนล้มลงไปกับพื้น

คู่กรณี เผยอีกมุม ทะเลาะเดือดกลางถนน ยัน ไม่ได้ฟันวินจยย. ไม่ได้ชักมีดออกจากปลอก แถมถูกต่อยร่วง กระดูกหัวไหล่แตก กระดูกหน้าหัก ลุ้นต้องผ่าตัดมั้ย
นายจิรายุ ได้โชว์มีดดาบที่ใช้ในตอนเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่าปลอกมีดไม่มีร่องรอยฉีกขาดและไม่พบคราบเลือดที่ตัวมีด พร้อมกับยืนยันว่าสาเหตุที่ต้องถือมีดโชว์นั้น ต้องการขู่คู่กรณีซึ่งเป็นคนตัวใหญ่และกำลังเดินปรี่เข้ามาหาที่รถ
นายจิรายุ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้ฟันคู่กรณี เพราะยังไม่ได้ชักมีดดาบออกมาจากปลอก นอกจากนี้ ยังชี้ดูบาดแผลตามใบหน้าและร่างกาย โดยที่บริเวณริมฝีปากมีแผลแตก
นายจิรายุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถเพื่อไปส่งแม่กับหลานชายที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขณะที่ตนขับรถกำลังจะขึ้นสะพานกลับรถ เมื่อตนขับขี่รถขึ้นไปได้เล็กน้อย มองเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ขับมาด้านข้างซ้าย จากนั้นเหมือนคู่กรณีทำหมวกหรืออะไรซักอย่างปลิวตกถนนไป ตนก็ไม่ได้สนใจขับไปตามปกติ
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า จนรถวนจะลงสะพานแล้ว ก่อนคนขับรถจักรยานยนต์คู่กรณีคันดังกล่าว จะขี่รถตีคู่มาด้านข้างซ้ายรถตน แล้วก็มาชะลอรถมองหน้าตนแบบแปลก ๆ ตนก็ไม่สนใจอะไรก็ขับรถต่อไป กระทั่งแฟนตนบอกว่า คนขับรถจักรยานยนต์เหมือนจะเอาเท้ามาถีบที่รถ
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า พอตนขับมาถึงทางลงสะพานด้านล่าง คู่กรณีก็ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับปาดมาจอดทางด้านขวามือตน พร้อมกับมองหน้าตนอีก และเหมือนพูดอะไรบางอย่างออกมา ตนจึงเปิดกระจกถามว่า “พี่มีอะไร” เขาก็ด่าตนกลับมาว่า “มึงขับรถประสาเหี้..อะไร”
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า ตนก็งง จึงถามไปว่า “ผมไปขับรถอะไร” จากนั้นเขาลงมาจากรถจักรยานยนต์ ตนก็เลยจอดรถแล้วลงไปถามเขาว่า “พี่มีอะไร ถ้าพี่เมาพี่ก็กลับบ้านไป” ตนพยายามเอามือดันตัวเขาออกไป เขาก็เถียงแล้วเอามือผลักอกตนออกมา เขาก็ไม่เลิกรา พยายามเดินเข้ามาหาตน
นายจิรายุ กล่าวว่า ตนก็ห่วงว่าในรถมีเด็กเล็กซึ่งเป็นลูกสาวตน กับแม่ตนที่อายุมากแล้ว ตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเขามีอาวุธอะไรไหม พอดีในรถมีมีดอยู่ จึงหยิบมีดออกมาโดยไม่ได้ถอดปลอกออก ถือไว้ในมือ อีกมือก็พยายามดันตัวเขาออกไป เหมือนขู่ไม่ให้เข้ามาใกล้
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า แต่เขาก็ไม่หยุด พูดอยู่ตลอดว่า “มึงฟันกูดิ” ตนก็บอกว่าถ้าพี่เมาพี่ไปเถอะ ลูกสาวที่เป็นผู้หญิงก็ร้องไห้ ตนเห็นเป็นเด็กแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับเขา พอตนเผลอเขาก็ต่อยมาที่หน้าตน ตนก็ไม่รู้อะไรอีกเลย ร่วงล้มไปกับพื้น ได้ยินแต่เสียงแฟนร้องบอกให้เรียกตำรวจมา ก่อนที่จะมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยห้าม
นายจิรายุ กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เอามีดออกมาฟันใส่เขา ตนแค่ถือขู่และใช้มือดันเขาไว้ไม่ให้เข้ามาเท่านั้น หลังเกิดเหตุตนมาหาหมอที่โรงพยาบาล หมอแจ้งว่ากระดูกหัวไหล่ของตนแตก กระดูกที่หน้าหัก มีเลือดออกในโพรงจมูก และบาดแผลตามตัว
“ตอนนี้ต้องรอหมอกระดูกวิเคราะห์อีกครั้งว่าจะต้องผ่าตัดหรือไม่ ส่วนสมองหมอได้สแกนแล้วไม่พบเลือดคั่งในสมอง ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักอะไรกับคู่กรณีมาก่อน และก็ไม่ได้บีบแตรเรียกให้หยุดอะไร ผมขับรถมาตามทางปกติ แล้วไปเห็นว่าหมวกของเขาหล่น ก็ไม่ได้สนใจขับต่อเพื่อไปส่งแม่ เพราะจะต้องขับรถไปรับพ่อต่อที่ จ.ราชบุรี” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้มีการขับรถปาดหน้าอะไรกันมาก่อน เรื่องที่ตนต้องถือมีดนั้น เป็นเพราะในรถมีทั้งมีลูกชายตน 5 ขวบ หลาน 3 ขวบกว่า แม่ตน และภรรยาตน ตนจะไปอยากมีอะไรกับเขา แค่ถือขู่เพราะเขาตัวใหญ่แล้วเดินตรงปรี่มาหาตนที่รถ
เบื้องต้นนายจิรายุอยู่ระหว่างแพทย์นัดตรวจกระดูกเพื่อรอผลวินิจฉัยเรื่องผ่าตัด ส่วนคดีได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์แล้ว เรื่องอาวุธมีดก็พร้อมจะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบต่อไปพร้อมกับผลตรวจทางแพทย์ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมาย