แจ้งข้อหา เก๋งไม่หลบรถกู้ชีพ จนท.ทั้งบีบแตรส่งสัญญาณ ประกาศใส่ไมค์ เปิดไฟฉุกเฉิน ก็ไม่หลบ แถมยังมองหน้าเบรกใส่ คนขับอ้างได้ยินเสียงแล้ว แต่ไม่รู้อยู่เลนไหน
กรณีรถกู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบเหตุฉุกเฉิน ขณะขับบนถนนแพรกษา มุ่งหน้าคลองเก้า ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จนมาถึงโค้งโรงแก้วก่อนวัดแพรกษา มีรถเก๋ง วิ่งเลนขวาสุดไม่หลบรถกู้ชีพ หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ลงโซเชียลก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยเหตุเกิดขึ้น เมื่อช่วงหัวค่ำ วันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 5 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เชิญตัวหญิง วัย 52 ปี ผู้ขับรถเก๋ง มาสอบถามโดยอ้างว่า ตนเห็นรถพยาบาลแล้ว ได้ยินเสียงมาด้านหลัง แต่ไม่รู้ว่าอยู่เลนไหน ตนคิดว่ารถกู้ชีพจะหลบซ้าย ยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะขวางหรือไม่หลบรถกู้ชีพ หลังจากตำรวจติดต่อไปตนจึงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ
นายนครินทร์ รัตนประภาสชรา เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากที่ตนรับแจ้งเหตุว่ามีผู้ป่วยหมดสติ ตนจึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อถึงโค้งโรงแก้ว ถนนแพรกษา รถเก๋งคันดังกล่าวขับขวางอยู่ในช่องทางขวา
ตนจะหลบทางซ้าย แต่หลบไม่ได้เพราะมีรถมอเตอร์ไซด์ขวางอยู่ ถ้าตนเบี่ยงก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งรถเก๋งขวางไปจนถึงซอย 7 แพรกษา ตนบีบแตรส่งสัญญาน ประกาศใส่ไมค์ เปิดไฟฉุกเฉิน รถคันดังกล่าวก็ไม่หลบ และ ยังมีการเบรกเป็นระยะด้วย
จนขับมาถึงบริเวณปากซอยพุฒสี (ปากซอย 7 แพรกษา) ตอนนั้นมีทางเบี่ยงซ้ายจึงขับเบี่ยงขึ้นมา ทางคนขับรถคันดังกล่าวก็มีการมองหน้าเรา คนขับมีลักษณะเป็นผู้ชายวัยกลางคน ตอนเราไปถึงตัวผู้ป่วย ผู้ป่วยก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว เราไปไม่ทัน
นายนครินทร์ กล่าวต่อว่า อยากจะฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนน ว่าถ้าหากมีรถพยาบาลที่เปิดสัญญาณไฟและเสียงขอทาง ได้โปรดช่วยให้ทางด้วย เพราะมันส่งผลต่อการสูญเสียของผู้ป่วยหรือผู้ประสบเหตุที่เรากำลังไปรับ เคสนี้เราได้อธิบายให้ทางญาติผู้ป่วยฟังแล้วในสาเหตุ ทางญาติก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร
ด้าน น.ส.สุกัญญา สุขกลิ่น เจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ กล่าวว่า ตอนนั้นที่พวกตนขับไปกัน ทุกคันหลบหมด จนมาเจอคันนี้ไม่ยอมหลบ ตั้งแต่โค้งโรงแก้วจนมาถึงปากซอย 7 แพรกษา เลยเลือกที่จะเบี่ยงตัวเองออกมาเพื่อรีบจะไปรับผู้ป่วย
ตนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปเพราะดูแล้วว่าเขาไม่หลบ แต่ถ้าเขาหลบตนก็จะไม่ถ่าย แต่นี่เขาไม่หลบตนจึงถ่าย เพื่อที่จะนำมาลงไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าคือพฤติกรรมที่ไม่ดี มันมีการสูญเสีย หรือถ้าหากเป็นญาติของเขาเอง ตนไม่อยากให้มีการสูญเสีย ตนมองทุกคนเป็นเหมือนญาติ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหา ไม่หลบให้รถพยาบาลหรือรถฉุกเฉิน มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และ เจ้าที่ตำรวจยังฝากเตือนกรณีไม่หลบรถฉุกเฉินจนเป็นเหตุให้ผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วย ที่อยู่ในรถถึงแก่ชีวิต อาจมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท