เหยื่อซินแสดังโผล่อีก หลอกซื้อที่สุสานทำแซกี สูญเงินเกือบล้าน อ้างชื่อบิ๊กป้อมโน้มน้าวชักจูง ผ่านมา3 ปี ไม่ทำพิธีให้ จนหมดศรัทธาในศาสตร์นี้

วันที่ 6 พ.ย.2567 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.นัทกานต์ หรือแนส (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี สาวเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่าถูกตัวแทนบริษัทสุสานจีนเอกชนชื่อดังรวมทั้งซินแสชื่อดังที่อ้างตัวว่าเป็นซินแสของเจ้าสัวประเทศไทย หลอกให้ซื้อที่ดินหรือสุสานคนเป็นใน จ.ชลบุรี เพื่อทำพิธีแซกีหรือการสืบชะตา

หมดเงินไปร่วมล้านบาท แต่ผ่านมา 3 ปี กลับไม่มีการดำเนินการหรือทำพิธีให้ จนหมดศรัทธาในความเชื่อเรื่องศาสตร์พวกนี้ จนอยากยกเลิกสัญญาทั้งหมดที่ทำไว้ เพราะไม่สามารถติดต่อบริษัทดังกล่าวกับซินแสคนดังกล่าวได้

จากการตรวจสอบหลักฐานพบว่า น.ส.นัทกานต์ ได้ทำเอกสารการจองที่ทำสุสานดังกล่าว ในแปลงที่ B DA168 ขนาด 22 ตรม. กว้าง 4 เมตร ยาว 5.5 เมตร ค่าที่ดินราคา 321,000 บาท ค่าก่อสร้าง 244,816 บาท ค่าตกแต่ง 42,000 บาท รวมเป็นเงิน 608,616 บาท โดยได้วางเงินจองเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 63 เป็นจำนวน 121,723 บาท และทำการผ่อนชำระอีกงวดละ 40,575 บาท เป็นจำนวน 11 งวด และ ผ่อน 40,567 บาท อีกจำนวน 1 งวด รวมเป็นเงิน 608,615 บาท

จากนั้นเมื่อ ส.ค. 64 ได้มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มอีกเพื่อเร่งทำพิธีแซกีอีกจำนวน 300,000 บาท รวมเป็นเงินยอดรวมทั้งหมดคือ 908,615 บาท โดยมีใบเสร็จและสลิปการโอนเงินทั้งหมดของบริษัทและตัวแทนดังกล่าว จากนั้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 67 น.ส.นัทกานต์ผู้เสียหายได้มีการติดตามเรื่องไปที่ตัวแทนบริษัทกับซินแสคนดังกล่าว กลับถูกบ่ายเบี่ยงและไม่สามารถติดต่อได้ จึงเดินทางไปที่บริษัทรับสร้างสุสานดังกล่าวที่ ใน กทม.เพื่อหวังสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องการสร้างสุสานเสริมดวง

แต่กลับได้รับเอกสารจากทางบริษัทกลับมาแค่ 1 ใบ รวมทั้งต้องจ่ายค่าเอกสารดังกล่าวอีกจำนวน 3,000 บาท ทำให้ทาง น.ส.นัทกานต์ ผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงเดินทางไปที่ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานดังกล่าวเพื่อทำการตรวจสอบ จึงพบว่ามีพื้นที่ที่จองไว้มีแค่แผ่นปูนกับที่ดินซึ่งเป็นลานหญ้าเปล่าๆเท่านั้น จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีในเบื้องต้นที่ สภ.บางบัวทอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแนะนำให้ไปแจ้งที่ สคบ.เพื่อดำเนินการต่อไป

โดย น.ส.นัทกานต์ หรือแนส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ต้นเรื่องเกิดเมื่อ ก.ค. 63 เพราะอดีตสามีได้ชวนตนไปทำแซกีเต่ามังกรในสืบชะตาให้ชีวิตดีขึ้น เนื่องจากในตอนนั้นตนเองมีสุขภาพไม่ค่อยดี เพราะมีความเครียดและมีบุตรยาก จึงได้ไปทำกิ๊ฟเพื่ออยากมีลูกมาแล้วประมาณ 7 รอบ

เหยื่อซินแสดังโผล่อีก หลอกซื้อที่สุสานทำแซกี สูญเงินเกือบล้าน อ้างชื่อบิ๊กป้อมโน้มน้าวชักจูง

เหยื่อซินแสดังโผล่อีก หลอกซื้อที่สุสานทำแซกี สูญเงินเกือบล้าน อ้างชื่อบิ๊กป้อมโน้มน้าวชักจูง

แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนทำให้ตนหวังมาพึ่งพาการทำแซกีตามหลักความเชื่อคนจีนว่าทำแล้วจะทำให้ตนเองมีสุขภาพที่ดีขึ้น ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปทำพิธีที่จ.ชลบุรี โดยการทำแซกีเต่ามังกร 10 กว่าตัว ในราคาตัวละ 48,000 บาท ไม่รวมค่าทำพิธี พร้อมกับทำการกรอกประวัติตัวเองให้ไว้กับสุสาน ของบริษัทดังกล่าว

น.ส.นัทกานต์ เล่าต่ออีกว่า ต่อมาใน ส.ค. 63 ได้มีตัวแทนบริษัทสุสานดังกล่าวติดต่อมาหาตน พร้อมกับอ้างว่ามีการติดตามความคืบหน้าว่าชีวิตตนว่าสุขภาพจะดีขึ้นไหม พร้อมกับแนะนำเรื่องการทำแซกีสุสาน เพื่อให้ตนสามารถมีลูกได้ง่ายขึ้น โดยบอกว่าต้องให้ตนทำสุสานให้มีขนาดใหญ่โตขึ้นจึงจะประสบความสำเร็จ

พร้อมกับทำการโน้มน้าวและชักจูงตนโดยบอกว่ามีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงมาทำพิธีนี้เช่นกัน เช่น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง คุณหญิงพจมาน และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมกับโชว์ป้ายหลุมให้ตนดู จนทำให้ตนเกิดความเชื่อถือเพราะขนาดผู้ใหญ่และบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงยังทำพิธีดังกล่าว พร้อมกับเสนอให้ตนเองซื้อที่ดินทำสุสานในราคา 608,615 บาท

ด้วยความที่ตนอยากมีลูก ประกอบกับความเชื่อในศาสตร์ดังกล่าว ตนจึงได้ตกลงทำพิธีดังกล่าว โดยตกลงจ่ายเป็นงวด โดยงวดแรกในวันที่ 1 ก.ย. 63 ตนได้จ่ายเงินค่าทำพิธีไปเป็นเงินจำนวน 121,723 บาท จากนั้นได้ผ่อนต่ออีกเดือนละ 40,575 บาท จำนวน 12 งวด แต่สุดท้ายตนถูกตัวแทนบริษัทมาเร่งให้ทำพิธีโดยต้องปิดยอดเงินที่ผ่อนอยู่เป็นเงินอีก 300,000 บาท ด้วยความที่อยากทำพิธีตามศาสตร์ดังกล่าวให้ครบถ้วน ตนจึงตัดสินใจจ่ายค่าทำพิธีดังกล่าวไปอีกตำนวน 300,000 บาทไป

น.ส.นัทกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลัง ตนจ่ายค่าทำพิธีอีกจำนวน 300,000 บาทเพื่อปิดยอดทำพิธีไปแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้มีการติดต่อมาทำพิธีใดๆให้กับตน จนเวลาผ่านมาถึง 3 ปีแล้ว ทุกวันนี้ตนก็ยังไม่ได้ทำพิธีอะไรในพื้นที่สุสานดังกล่าวเลย พอตนติดต่อไปก็ถูกบ่ายเบี่ยงอ้างและโยนกันไปมาในบริษัท จนตนไม่รู้ว่าเรื่องของตนจะไปจบที่ตรงไหน

ตอนนี้ตนแค่ต้องการยกเลิกสัญญาและขอเงินคืน เพราะทางบริษัทผิดสัญญา รวมทั้งตนไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เหมือนตนอีก ตนเคยสืบทราบมาว่าทางเจ้าของบริษัทแห่งนี้เป็นคนมาเลเซียเท่านั้น หลังตัดสินใจไปแจ้งความที่โรงพักแล้ว ตนจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากทางเพจกล้าที่จะก้าว ให้เข้ามาช่วยเหลือเพราะตนไม่รู้ว่าจะดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไรต่อไป ตนยอมรับว่าหลังถูกหลอกแบบนี้แล้ว

ทำให้ตนเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อศาสตร์พวกนี้ และตนเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกหลอก แต่ยังมีอีกหลายคนเป็นกลุ่มก็มี ที่ต้องมาเสียเงินจำนวนเป็นล้านให้กับขบวนการเหล่านี้ โดยตนตั้งใจว่าจะไม่ไปยุ่งกับเรื่องศาสตร์แบบนี้อีกแล้ว มันเป็นการหลอกลวงประชาชนในความคิดของตน ใช้ความเชื่อมาหากินกับคนไทยด้วยกัน

ทางด้านนายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า ผู้เสียหายได้ร้องเรียนมาที่เพจกล้าที่จะก้าว พร้อมกับนำหลักฐานทั้งหมดมาให้ตรวจสอบจึงพบว่ามีความไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้ การอาศัยความเชื่อมาหลอกลวงทำให้เขาสูญเงินไปเกือบล้านบาทนั้นไม่ถูกต้อง ซึ่งในพรุ่งนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปพบเลขาธิการ สคบ. ว่าจะมีการช่วยเหลือทางด้านใดได้บ้าง

เพราะกรณีนี้สามารถเตือนภัยประชาชนได้ จากที่ตนได้ตรวจสอบหลักฐาน พบว่าตัวแทนของบริษัทได้มีการกล่าวอ้างเอานักการเมืองคนดังระดับประเทศ มาโน้มน้าวให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ เรื่องนี้ตนได้ประสานไปยังอธิบดีกรมที่ดิน และผู้ว่า จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่าที่ดินพื้นดังกล่าวเองก็มีความแปลกติดกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติด้วย ซึ่งหลังจากนี้ตนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบหาความจริงเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวต่อไป

ในเบื้องต้นผู้เสียหายได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด พร้อมกับประสานไปที่ สคบ.เพื่อขอเข้าพบในวันพรุ่งนี้ โดยเตรียมยื่นเรื่องร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบเรื่องที่ดินสุสานแห่งนี้ว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน