เมียไม่รู้ ผัวแอบส่องเฟซบุ๊ก เห็นภาพบาดใจ กอดชายอื่น โมโหจัด รัวต่อย ขว้างมีดใส่คิ้วแตก เจ้าตัวแจงเข้าใจผิด เป็นภาพเก่ากับอดีตคนรัก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 พ.ย.2567 ร.ต.ต.ศิริชัย ศรีบุรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกาย มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ที่หอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงประสานมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน นำตัวผู้บาดเจ็บ น.ส.จันทร์จิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ มีบาดแผลแตกที่คิ้วซ้าย และแก้มซ้าย ส่งโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์รักษา
โดยมี นายทนงศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ผู้ก่อเหตุ สามีของผู้บาดเจ็บ ตามมาดูอาการของภรรยา และให้การกับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ
นายทนงศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนกับภรรยา แต่งงานและอยู่ด้วยกันมานานหลายปี จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ปี ที่ผ่านมาตนและภรรยาประกอบอาชีพเป็นคนงานรับจ้างก่อสร้างทั่วไป โดยก่อนหน้านี้ ภรรยาไปทำงานที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนตนทำงานอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่องานเสร็จจึงกลับมาอยู่ด้วยกันที่ศรีสะเกษ อีกครั้ง
ด้วยความที่ตนเป็นคนอ่านและเขียนหนังสือไม่ได้ จึงให้เพื่อนสมัครเฟซบุ๊กให้ เพื่อไปส่องเฟซบุ๊กภรรยา และติดตามการใช้ชีวิต แต่ภรรยาไม่รู้ โดยก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งเล่นเฟซบุ๊กอยู่ และเข้าไปส่องดูในเฟซบุ๊กภรรยา
ปรากฏว่า ต้องเห็นภาพบาดใจ เมื่อมีภาพชายอื่น ซึ่งไม่ใช่ตนกอดกับภรรยาตนอยู่ ด้วยความโมโห จึงเดินเข้าไปสาวหมัดต่อยภรรยาอยู่หลายครั้ง ภรรยาตนพยายามวิ่งหนี ตนจึงขว้างตะหลิวไปโดนใบหน้าของภรรยา ได้รับบาดเจ็บ
นายทนงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ตนไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับตน ถึงแม้ว่าตนจะไม่เป็นคนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่ไม่ใช่คนโง่ ที่จะยอมได้ จึงลงมือทำร้ายภรรยาไปแบบนั้น และหลังจากที่ภรรยารักษาตัวเสร็จ จะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ เพื่อไม่ให้มีอะไรติดใจกันต่อไป
ด้าน น.ส.จันทร์จิรา ภรรยาของนายทนงศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า สามีเข้าใจผิด ที่คิดว่าชายที่เห็นในภาพเป็นชู้กับตน ซึ่งจริงๆ เขาเป็นแฟนเก่า ที่เคยคบหากันมาก่อน และเลิกรากันไป แต่สามีไม่ยอมฟัง และเข้ามาทำร้ายตน ตนจึงวิ่งหนี ก่อนสามีจะขว้างมีดอีโต้ใส่ตน ไม่ใช่ตะหลิวตามที่สามีอ้าง ทำให้โดนสันมีด เข้าที่หน้าจนคิ้ว และแก้มแตกเป็นรอยยาว
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ยึดอุปกรณ์ ที่เป็นสนับมือของนายทนงศักดิ์ สามีไว้ พร้อมลงบันทึกประจำวัน และได้เจรจา ให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเพื่อยุติปัญหาในเรื่องนี้ต่อไป