จับแล้วไอ้บิงโก แต่งเป็นพระเดินบิณฑบาต ชาวบ้านเอือม ค้นบ้านเจออยู่กับเมีย เสพยาบ้า-กัญชาพบเป็นตัวตึงของหมู่บ้าน ลักเล็กขโมยน้อย เคยแม้กระทั่งจะหาเรื่องผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
วันที่ 12 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ตชด.ภาค 2 ได้ควบคุมตัวชายแต่งกายคล้ายพระ ขณะที่กำลังเดินเข้ามาภายในซอยศรีจันทร์ 39 บ้านหนองใหญ่ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เนื่องจากท่าทีน่าสงสัยไว้ผมยาว และเมื่อพูดคุยก็ไม่สามารถบอกได้ว่าบวชที่วัดไหน และยังไม่มีใบสุทธิ เมื่อตำรวจตรวจค้นไม่พบหลักฐานแต่อย่างใด สุดท้ายไม่ได้เป็นพระจริง
นางพูลสุข โนนทนวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองไฮ หมู่ 8 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เล่าว่า ตัวของนายภักดี สุทุม หรือบิงโก อายุ 60 ปี เดิมเป็นคนในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด ก่อนจะย้ายมาในพื้นที่ชลประทานที่ 6 อยู่ท้ายหมู่บ้านหนองไฮ ที่บ้านมานายบิงโกมักจะเป็นคนที่ลักเล็กขโมยน้อย ไม่ว่าจะเป็นของชาวบ้านหรือของในโรงเรียน และเป็นคนพูดจาโผงผาง
เคยแม้กระทั่งจะทำร้ายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาแล้ว หนักสุดมีชาวบ้านได้มาบอกว่า นายบิงโก ได้แต่งตัวคล้ายพระ ออกบิณฑบาต บริเวณตลาดบ้านหนองใหญ่ จนกระทั่งถูกตำรวจตระเวนชายแดนควบคุมตัวได้ จากนั้นตนเองก็ได้ไปร่วมสอบปากคำโดยนายบิงโกบอกว่า ใจตนเองเป็นพระไม่จำเป็นที่จะผมสั้นเสมอไปผมยาวก็ได้ ต่อมาเมื่อตรวจปัสสาวะพบว่ามีผลเป็นบวก จากนั้นได้พาไปที่บ้านนายบิงโกก็ยังบอกว่าบ้านตนเองนี่หละที่เป็นวัด และเมื่อค้นในบ้านพบบ้องกัญชาและอาวุธมีด
ด้าน จ.ส.ต. ธนูภพ ชะราจันทร์ ชุดปฏิบัติการพิเศษ บก.ตชด.ภาค 2 เล่าว่า วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ขณะที่กำลังออกปฏิบัติหน้าที่กลับมา ได้มาพบกับชายคนดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาคือนายภักดี สุทุม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 หมู่ 19 ต. บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ห่มผ้าเหลืองคล้ายพระสงฆ์ กำลังเดินบิณฑบาต อยู่บริเวณถนนศรีจันทร์ ซอย 39
จับแล้วไอ้บิงโก แต่งเป็นพระเดินบิณฑบาต ชาวบ้านเอือม ค้นบ้านเจออยู่กับเมีย เสพยาบ้า-กัญชา
ดูลักษณะแล้วไม่ใช่พระแน่นอนเพราะมีทรงผมยาว จึงได้ลงไปสอบถามว่ามีใบสุทธิหรือ บัตรประจำตัวพระสงฆ์หรือไม่ นายภักดี ตอบว่ามีแต่ไม่ได้อยู่กับตนอยู่กับครูบาอาจารย์ แล้วพูดวกไปวนมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ดูแล้วไม่ใช่พระสงฆ์อย่างแน่นอน ตนจึงได้ประสานไปยังผู้นำชุมชน บ้านหนองไฮ หมู่ 8 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ
ซึ่งผู้นำชุมชนยืนยันว่าไม่ใช่ลูกบ้านตน แต่เป็นคนมาทำมาหากินที่อยู่อาศัยกับภรรยา ในหมู่บ้าน จากนั้นได้ นำตัวนายภักดี ไปที่บ้านพักตรวจสอบภายในบ้าน พบอุปกรณ์เสพกัญชาและยาบ้า และจากการตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จึงได้ประสานไปยัง สสภ.เมืองขอนแก่น นำตัวไปดำเนินคดี ล่าสุด ผู้ต้องหาให้การสารภาพเสพยาเสพติดขั้นต้นในชั้นศาล ส่วนความผิดด้าน พรบ. สงฆ์นั้น พนักงานสอบสวนจะออกหมายจับภายหลังอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่การลงตรวจสอบบ้านนายบิงโกพบว่า ได้อยู่บ้านกับภรรยา บอกว่าตนเองรับจ้างทั่วไปโดยมีจักรยานยนต์พ่วงข้างเป็นยานพาหนะ และไม่ขอพูดถึงเรื่องที่แต่งกายคล้ายพระ ตนเองขออยู่เงียบๆไม่ขอพูดอะไรมาก
