ตำรวจสนธิกำลังไล่ล่าชาย 2 คน หลังก่อเหตุชนแล้วโบกรถหลบหนี จนมุมหวังปาระเบิดเปิดทาง แต่พลาดบึ้มใส่ตัวดับ1 ส่วนอีกรายขโมยเรือชาวบ้านหวังข้ามฝั่งลาว ก่อนจนมุมกลางแม่น้ำ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 13 พ.ย.67 พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย ,พ.ต.อ.จามร อันดี รองผบก. พ.ต.อ.ประเสริฐ ธรรมชัย ผกก.สภ.ท่าบ่อ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานหนองคาย ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และแพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระเบิดภายในบ้านหลัง หมู่ 2 บ้านโพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
จากการตรวจสอบ พบศพชายนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณประตูทางเข้าห้องครัว อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีกรมท่า รองเท้าผ้าใบ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มือข้างซ้ายขาด บริเวณช่องท้องเป็นรูลำไส้ทะลักออกมา และยังพบระเบิดอยู่ในกระเป๋ากางเกง พบอาวุธปืนพกสั้น มีดพก อยู่ในกระเป๋าสะพายที่ผู้ตายนอนทับอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยไม่พบเอกสารแสดงตัวบุคคล นอกจากนี้ยังพบสลักระเบิดชนิดระเบิดมือแบบขว้าง ตกอยู่ริมถนนหน้าบ้านเกิดเหตุด้วย
นอกจากนี้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนได้ติดตามตัว คนร้ายที่ก่อเหตุขโมยเรือหางยาวของชาวบ้าน ก่อนหลบหนีไปในแม่น้ำโขง ตั้งแต่ช่วงวัดกุมภประดิษฐ์ บ้านโพนสา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับ นรข.นำเรือออกติดตาม ซึ่งทราบว่าคนร้ายมีปืน และพยายามต่อสู้ เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงยอมขึ้นจากน้ำโขงมาบนฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้
จากการตรวจสอบกระเป๋าสะพาย ทราบชื่อคือ นายคำสิง อายุ 38 ปี ชาวลาวไม่พบอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดได้ตรวจสอบกระเป๋าสีดำที่นายคำสิงทิ้งไว้ ภายในพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดซุกซ่อนอยู่
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ร.ต.อ.ไพทูรย์ ชั้นเสมา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ รับแจ้งเหตุรถชนกัน บริเวณสี่แยกบ้านเทวี ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ตรวจสอบพบรถกระบะ 4 ประตูสีขาว ชนกับรถเก๋ง สีขาว รถกระบะขับไปต่อไม่ได้ คนที่นั่งมาในรถกระบะ 2 คน คือนายคำสิง และผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดได้ทิ้งรถไว้ แล้วโบกรถเก๋งคนลาวที่ขับผ่านมา ออกจากที่เกิดเหตุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้ติดตามจับกุม จนพบว่าทั้งคู่ได้ลงจากรถเก๋งที่ตลาดท่าบ่อ แล้วนั่งรถสามล้อเครื่องมุ่งหน้ามายังบ้านโพนสา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามอย่างกระชั้นชิด กระทั่งชายผู้เสียชีวิต เห็นท่าไม่ดีได้นำระเบิดออกมา พร้อมถอดสลัก ก่อนจะระเบิดขึ้น จนเสียชีวิต ส่วนนายคำสิง ไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้หลบหนีไปขโมยเรือชาวบ้าน และได้ทิ้งกระเป๋าสีดำไว้บนฝั่ง และยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่บริเวณท่าน้ำจำนวนหนึ่ง ก่อนถูกจับกุม
จากการสอบถามนายสถาพร อายุ 51 ปี ซึ่งได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้มีรถสามล้อมาจอดหน้าบ้าน โดยมีชาย 2 คนนั่งโดยสารมา จากนั้นตำรวจขับรถมาประกบบอกให้มอบตัว คนร้ายได้ลงจากรถแล้วชักปืนออกมา ตำรวจรีบตะโกนบอกให้ตนวิ่งหนี ไม่นานชายทั้งสองคนก็วิ่งมาเปิดประตูบ้าน ก่อนเข้าไปในบ้านแล้วเกิดเสียงระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้ตัวบ้านเสียหาย หลังคาทะลุ และระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลโพนสา ซึ่งมาจ่ายเงินค่าซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ากับตน ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บบริเวณไหล่ซ้ายด้วย ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่น
พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วว่า คดีนี้เกิดจากตนได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถชนกันแล้วหลบหนี โดยเป็นรถกระบะ กับรถเก๋ง น่าสงสัยว่าภายในรถกระบะจะมียาเสพติด เพราะเมื่อเปิดประตูออกได้กลิ่นยาเสพติด จึงได้สั่งการให้ตำรวจติดตามคนขับรถกระบะมา
จนทราบว่ามีการโบกรถเก๋งมาลงยังตลาดท่าบ่อ แล้วผู้หลบหนีทั้งสองคนได้นั่งสามล้อเครื่องมุ่งหน้ามายังบ้านโพนสา พอตำรวจตามมาถึงก็ไม่ยอมมอบตัว กลับจะต่อสู้ โดยการดึงสลักระเบิดแล้ววิ่งหนีเข้าไปในบ้าน แต่เกิดพลาดสะดุดล้มทำให้ระเบิดในมือทำงาน ระเบิดตูมเดียวเสียชีวิต ส่วนอีกคนวิ่งหนีออกทางหน้าต่าง วิ่งทะลุบ้านชาวบ้าน ขโมยเรือหางยาวชาวบ้าน พยายามจะหลบหนี แต่ก็ถูกตำรวจตามจับได้กลางแม่น้ำโขง
ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นอ้างว่าไม่รู้จักกับคนตาย เพียงแต่ขอติดรถมาจะไปทำงานที่อุดรธานี แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จะได้ตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งรถยนต์กระบะ พยานแวดล้อม กล้องวงจรปิดตามเส้นทางทุกสายที่เกิดเหตุ และตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ส่วนจะมีสิ่งผิดกฎหมายอื่นใดต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง