2ผัวเมีย ขับเก๋งหักหลบเสาจราจรไม่สะท้อนแสง รถพุ่งลงคลอง เมียรอดผัวถูกน้ำซัดหาย พบน้ำในคลองชลประทานไหลเชี่ยว ทีมนักประดาน้ำจะได้วางแผนการค้นหาอีกครั้ง
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 13 พ.ย.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุรถยนต์ตกลงไปในคลองชลประทานบ้านหนองไร่ ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี มีผู้ติดภายในรถจำนวน 2 คน หลังรับแจ้งจึงรีบประสานทีมปฏิบัติการใต้น้ำมูลนิธิขุนรัตนาวุธนำอุปกรณ์เข้าค้นหาทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บคือนางสาวกัญญา อายุ 57 ปี ที่สามารถขึ้นจากน้ำได้ อยู่ในสภาพเปียกปอนและยังมีอาการตกใจ ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ จะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลมะการักษ์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
จากการสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนนาวุธในบริเวณที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่นางสาวกัญญา ขึ้นจากน้ำแล้ว ได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โดยบอกกับชาวบ้านว่า ขณะที่ตนเองและสามีขับรถเก๋งมา โดยมีนายทองใบ อายุ 69 ปี ผู้เป็นสามีเป็นคนขับ โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปตำบลดอนชะเอม
ระหว่างที่ขับมาถึงจุดเกิดเหตุ มองไม่เห็นเสาจราจรสีส้มที่ตั้งอยู่กลางถนน ทำให้นายทองใบหักหลบจนรถเสียหลักพุ่งตกลงไปในคลองชลประทาน แต่ตนและสามีสามารถออกมาจากรถได้และลอยตามกระแสน้ำไปไกลกว่า 700 เมตร โดยทางนายทองใบได้ดันตัวนางสาวกัญญา ขึ้นจากน้ำ ก่อนที่นางสาวกัญญาจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน หลังจากนั้นจึงรีบวิ่งมาเพื่อที่จะช่วยนายทองใบขึ้นจากน้ำ แต่ปรากฏว่านายทองใบได้จมหายไปกับกระแสน้ำแล้ว
ทางด้านนายสมศักดิ์ สมบัติ ผู้ช่วยกำนันตำบลตะคร้ำเอน ให้ข้อมูลว่า ตนเองก็ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านอยู่บ่อยครั้งว่า ตั้งแต่มีการตั้งเสาจราจรสีส้มตรงนี้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนขับผ่านมาก็จะตกใจเพราะมองไม่เห็นต้องหักหลบอย่างกระชั้นชิด ทำให้รถเสียหลักหล่นไปในคลอง หากเสาจราจรตรงนี้มองว่าหากไม่จำเป็นก็ควรรื้อถอนออกจะดีกว่า หรือไม่ก็ติดไฟสัญญานที่สามารถสังเกตเห็นได้จากระยะไกล ให้มองเห็นชัดเจนมากกว่านี้
ในส่วนการค้นหาตั้งแต่ 19.30 น. จนถึง 22.30 น. ยังไม่พบรถที่ตกลงไปในคลอง รวมถึงร่างของนายทองใบ เนื่องจากแสงสว่างไม่เพียงพอ รวมไปถึงน้ำในคลองชลประทานไหลเชี่ยว ซึ่งทางทีมนักประดาน้ำจะได้วางแผนการค้นหาอีกครั้ง หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไป