วันที่ 10 เม.ย. พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ ผกก.สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุข รอง.ผกก.ป. พ.ต.ต.ชัชชีวิน นาคมูสิ สวป. นำกำลังเข้าตรวจค้นกระต๊อบไม้ ภายในสวนกล้วย ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่ามีคนไทยนำชะนีซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มาขังไว้ในกรงที่มีขนาดเล็กและชะนีได้ส่งเสียงร้องโหยหวนทุกคืน สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านที่อยู่ในระแวกนั้นเป็นอย่างมาก

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบนายสมพร จงในงาม อายุ 30 ปี ชาวอุดรธานี อยู่ภายในกระต๊อบหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบบริเวณดงกล้วยพบชะนีเพศผู้และเพศเมียรวมเมีย อายุประมาณ 3-4ปี ถูกขังอยู่ในกรงที่มีขนาดเล็ก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดไว้ พร้อมนำตัวนายสมพรไปสอบปากคำที่สภ.บ่อผุด

จากการสอบสวนนายสมพร ให้การว่า ชะนีทั้ง 2 ตัวที่พบเป็นของเพื่อนชายที่นำมาฝากเลี้ยงไว้ ส่วนตนเองนั้นมีอาชีพขายของเร่ ที่หาดเฉวง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงได้ควบคุมตัวนายสมพรพร้อมตรวจยึดชะนีทั้ง 2 ตัว ไว้เป็นหลักฐานพร้อมแจ้งข้อหา กระทำผิดฐาน มีสัตว์ป่าคุ้มครอง(ชะนี) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามม.19 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 ก่อนส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มชายไทยที่นำชะนี และอีกัวน่า มาเดินอุ้มเร่ไปตามชายหาดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมเรียกเก็บเงินครั้งละ 50-100 บาท จนก่อความรำคาญให้กับนักท่องเที่ยว บางครั้งชายไทยกลุ่มนี้จะนำชะนีไปให้นักท่องเที่ยวอุ้มถ่ายรูปโดยที่ได้ไม่ตกลงราคากัน และนักท่องเที่ยวก็ไม่เข้าใจผิดคิดว่ามาให้ถ่ายรูปโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พอเรียกเก็บเงินนักท่องเที่ยวก็ไม่ยอมจ่ายจนมีปัญหาโต้เถียงกัน และเกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเทียวตามมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชายไทย 2 คน คนแรกอุ้มชะนี และอีกคนอุ้มอิกัวน่า กำลังเดินเร่ฐณฺฌซรหาดเฉวง และร้านอาหาร เพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่กับชะนี ต่อมาได้มีหญิงสาวชาวต่างชาติกำลังอุ้มชะนีเพื่อที่จะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ขณะเดียวกันมีพนง.เสิร์ฟเดินผ่านหน้าหญิงชาวต่างชาติได้ถูกชะนีกัดเข้าที่แขนเป็นแผล โดยหลังเกิดเหตุชายไทยทั้ง 2 คนได้เดินหายไปพร้อมกับอิกัวนาและชะนี

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน