อุกอาจ! กสทช. ตรวจพบ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลากสายไฟเบอร์ออฟติก 256 คอร์ ยาว 3 กิโล จากไทยข้ามไปเมียนมา จ่อเอาผิดบริษัทรับจ้างเดินสาย
2 ธ.ค. 2567 พล.ต.อ. ณัฐธร เพราะสุนทร ประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., เจ้าหน้าที่ กสทช., เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปยังด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 บ้านริมเมย หมู่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก
หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า บริเวณดังกล่าวมีการลักลอบลากสายส่งสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ไฟเบอร์ออฟติก) ข้ามแนวชายแดนแบบผิดกฎหมาย
เมื่อไปถึงพบสายไฟเบอร์ออฟติกขนาด 216 คอร์ และขนาด 96 คอร์ รวม 16 เส้น ซึ่งเป็นสายส่งสัญญาณขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ กสทช. เคยดำเนินตรวจมา
สายดังกล่าวถูกลากจากแนวเสาไฟฟ้าฝั่งแม่สอด ลากขนานไปกับขอบสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ข้ามฝั่งไป จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา รวมระยะความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์ตัดสายสัญญาณดังกล่าวทันที เพื่อทำให้ระบบสัญญาณใช้งานไม่ได้
พล.ต.อ. ณัฐธร กล่าวว่า ถือเป็นการจับกุมสายเคเบิลเถื่อนขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย นอกจากนี้จากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือพิเศษ กสทช. พบว่าเครือข่ายดังกล่าวยังได้ลักลอบส่งกระจายสัญญาณไปยังพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่กลุ่ม “จีนเทา” หรือรู้จักกันในชื่อ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามชายแดน อ.แม่สอด สายส่งสัญญาณดังกล่าวสามารถครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตร สามารถป้อนสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำงานได้อย่างเสถียร
ขณะนี้ได้ประสานทางฝ่ายกฎหมาย ค้นหาว่า บริษัทใดเป็นผู้ส่งสัญญาณไปยังฝั่งเมียนมา ซึ่ง กสทช. จะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและโทษปรับคือ จำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับ 10 ล้านบาท