18 โจ๋ ขี่จยย. 9 คัน บุกถล่มคู่อริต่างตำบล ยิงผิดตัว ใส่ เจ้าหน้าที่อุทยานน้ำตกหงาว ชุดลาดตระเวน เจ็บ 2 ก่อนตามรวบยกแก๊ง มือปืน วัย16 เปิดปากสารภาพ
วันที่ 11 ธ.ค.2567 พ.ต.ท.สุรศักดิ์ จินตนา สารวัตร(สอบสวน) สภ.ราชกรูด เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.30 น.ของวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงและปาระเบิดปิงปองเข้าใส่เจ้าหน้าที่อุทยานน้ำตกหงาว ชุดลาดตระเวนป่า บริเวณปากทางเข้าที่ทำการ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ริมถนนเพชรเกษม ม.1 ต.หงาว อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยคนขับถูกสะเก็ดระเบิดปิงปองเข้าขาทั้ง 2 ข้าง คนซ้อนท้ายถูกยิงเข้าน่องขวา กระสุนฝังใน ก่อนรีบเข้าที่ทำการอุทยานน้ำตกหงาว ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเจ้าหน้าที่ พร้อมนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลระนอง ทันที
18 โจ๋ ขี่จยย. 9 คัน บุกถล่มคู่อริต่างตำบล ยิงผิดตัว ใส่ เจ้าหน้าที่อุทยานน้ำตกหงาว ชุดลาดตระเวน เจ็บ 2 ก่อนตามรวบยกแก๊ง มือปืน วัย16 เปิดปากสารภาพ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ซึ่งเพิ่งกลับจากเดินลาดตระเวนป่า เมื่อกลับถึงที่พักได้นำเสื้อผ้าและเครื่องแบบไปซักยังร้านซักอบผ้าหยอดเหรียญ บริเวณตลาดเทศบาลหงาวในช่วงค่ำ ก่อนเดินทางกลับ
ระหว่างทางผ่านวัดหงาว สังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นทีมใหญ่ รวม 18 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 9 คัน ขับขี่สวนมา เกรงหวั่นจะมีเรื่องเลยรีบบิดรถกลับที่ทำการอุทยานทันที ซึ่งอยู่ห่างเพียง 2 กิโลเมตร แต่วัยรุ่นกลุ่มดั่งกล่าว คงเข้าใจผิดว่าเป็นคู่อริ จากบ้านท่าฉาง ต.หงาว จึงเลี้ยวรถไล่ติดตามมาบนถนนเพชรเกษม ทันที
จนถึงปากทางเข้าอุทยานน้ำตกหงาว 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ชักอาวุธปืนยิง และปาระเบิดปิงปอง เข้าใส่ 2 เจ้าหน้าที่อุทยาน โชคดีทิศทางกระสุนเจาะเข้าที่น่องขวา 1 คน อีกคนถูกสะเก็ดระเบิดปิงปอง เข้าที่น่องทั้ง 2 ข้าง ก่อนรีบเข้าไปขอความช่วยเหลือภายในที่ทำการและส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลระนอง
ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีทันที การก่อเหตุครั้งนี้เป็นการแก้แค้นยิงผิดตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานน้ำตกหงาว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งจากวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่ม ที่มีการปาระเบิดปิงปองถล่มกันไปมา ระหว่างวัยรุ่น 2 ตำบล ที่หมู่บ้านและชุมชน อยู่ห่างกันร่วม 10 กิโลเมตร
จนช่วงเช้าวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชกรูด พร้อมชุดสืบสวนฯและหน่วยพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ บริเวณทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว พบปลอกกระสุน 3 ปลอก ตกอยู่บนพื้นถนน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน หลังสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบเหตุ
พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ระนอง ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เสน่ห์ มณีฉาย ผกก.สส.ภ.จว.ระนอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ดำมี สว.กก.สส.ภ.จว.ระนอง และ ร.ต.อ.ปิยพงศ์ ชายสุด รองสารวัตร(สืบสวน) สภ.ราชกรูด
นำกำลังตำรวจร่วม 30 นาย เข้าแกะรอยกลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ จนได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนเพชรเกษม จึงทำให้เห็นกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้รถจักรยานยนต์แวะเข้าเติมน้ำมันภายในปั๊ม ก่อนจะขับตามกันออกไปสู่ถนนเพชรเกษม เพื่อกลับเข้าพื้นที่ตัวเมืองระนอง แล้วแยกย้ายตัวกัน
หลังจากได้ภาพจากกล้องวงจรปิด พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้รับมา พร้อมประกาศให้กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดรีบเข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที จนช่วงบ่าย กลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุ 16-18 ปี ได้ทยอยกันเข้ามอบตัว พร้อมนำรถจักรยานยนต์ที่ขับไปก่อเหตุในพื้นที่ ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง
และได้ 2 ตัวหลักที่ขับรถจักรยานยนต์ อายุ 18 ปี และคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ อายุ 16 ปี ที่ใช้อาวุธปืนยิง ได้เข้ามอบตัว พร้อมรับสารภาพกับผู้การระนอง เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ถูกตั้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น แต่ยังขาดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนระนอง ต้องหัวปั่น หลังจากที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พยายามปกปิดแหล่งที่ซ่อนปืน แบลงค์กัน สิ่งเทียมอาวุธ มาดัดแปลงใช้กับกระสุนจริงได้ ซึ่งมีจำหน่ายตามเพจในโซเชียลออนไลน์
โดยผู้สื่อข่าวได้ติดตามตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามค้นหาอาวุธปืนตามคำรับสารภาพ แต่ยังไม่สามารถตรวจค้นเจอ จนต้องมีการนำตัวผู้ต้องหาทั้งมือยิง และมือขับรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ มาเค้นสอบความจริง ที่กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง
จนกระทั่ง เวลา 18.00 น. มือปืนวัย 16 เปิดปากสารภาพว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุได้มอบให้เพื่อนวัย 18 ปีที่ขับรถจักรยานยนต์ เป็นผู้เอาไปแอบซ่อน จนมีการออกไปค้นหา ยังบ้านแถวเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางนอน อ.เมืองระนอง ที่มีเพื่อน ๆ วัย 18 ปี อาศัยอยู่ แต่ไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อเหตุทั้ง 18 คน
โดยการค้นครั้งแรกภายในห้องแถวเช่า ค้นหาในกล่องพลาสติก มีลิ้นชัก 4 ชั้น ภายในห้องนอน แต่ไม่เจอ จึงนึกว่าเพื่อนร่วมห้องที่พักนอนอยู่ เป็นคนนำไปแอบซ่อนที่อื่นอีก เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถจักรยานยนต์ ติดตามไปหาตัวเพื่อน ที่อาจจะขึ้นไปเล่นกีตาร์บนเนินเขาใกล้ห้องเช่า
จนได้ตัวมาตอนค่ำแล้วประมาณ 19.00 น. และสารวัตรสืบสวนได้แจ้งให้น้องที่พักอยู่ในห้องทราบว่า ทางตำรวจมาที่นี่เพราะต้องการอาวุธปืน โดยเพื่อนที่ตกเป็นผู้ต้องหา ได้เอาปืนมาซ่อนไว้ที่นี้ แต่ก็ปฏิเสธเช่นกันว่าไม่เคยเห็นปืนที่ถูกนำมาซ่อนไว้ จนตำรวจต้องติดตามไปค้นหายังเป้าหมายในพื้นที่ข้างเคียง แต่ก็ไร้วี่แวว
สุดท้ายเมื่อเวลา 20.00 น. ชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาวัย 18 ปี กลับมาค้นห้องแถวเช่าหลังเดิมอีกครั้ง พร้อมชี้กล่องพลาสติก 4 ชั้น มีลิ้นชัก ซึ่งอยู่ในห้องรับแขกหน้าบ้าน และชี้ไปยังลิ้นชักชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงนำออกมาตรวจค้น จนพบกล่องพลาสติกสีดำ แกะภายในพบอาวุธปืนแบลงค์กัน พร้อมกระสุนปืน .380 อีกจำนวนหนึ่ง
ตำรวจสอบถามครั้งแรกที่มาค้นทำไมไม่บอกความจริง น้องวัย 18 ปี บอกหากพบอาวุธปืนกลัวจะมีความผิดเพิ่มขึ้นอีก แต่สุดท้ายต้องยอมรับสารภาพความจริง เพราะไม่สามารถหลบหลีกได้อีก กลัวเพื่อน ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องจะมีความผิด
ก่อนนำตัวกลับพร้อมอาวุธปืน มาที่ กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เมื่อเวลา 20.50 น. พร้อมส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ราชกรูด ที่มาดำเนินการสอบปากคำเบื้องต้น จะมีการแจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น กับ 2 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ
ส่วนวัยรุ่นรายอื่น ๆ อีก 16 ราย จะดูความผิดว่าไปเกี่ยวข้องกับความผิดข้อไหน จะแจ้งความผิดเพิ่มเติม รวมทั้งให้ทีมสหวิชาชีพสอบสวน ในกระบวนการช่วยเหลือเด็ก เข้าร่วมสอบสวนปากคำต่อไป
