หนุ่มหอบหลักฐานโอนเงินแจ้งตำรวจ ทำผิดเงื่อนไขคุมประพฤติกลัวต้องกลับเข้าเรือนจำ เลยไปปรึกษาผู้นำหมู่บ้านอ้างช่วยเคลียร์ให้เรียกเงินขอค่าดำเนินการ สุดท้ายสูญสี่แสนกว่า
วันที่ 11 ธ.ค.2567 ที่สภ.แม่สาย จ.เชียงราย นายธนวินท์ (สงวนนามสกุล) พร้อมญาติเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.อังสุมาริน มีบุญลาภ รองสารวัตร(สอบสวน) ระบุ ถูกอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ซึ่งเป็นประธาน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และอาสาควบคุมความประพฤติของหมู่บ้าน ฉ้อโกงและเรียกรับเงินไปเป็นจำนวน 415,000 บาท อ้างเป็นค่าใช้จ่ายเคลียร์เจ้าหน้าที่ควบคุมความประพฤติ เพื่อไม่ให้ต้องกลับไปเข้าคุกอีก เนื่องจากทำผิดเงื่อนไขคุมประพฤติ
นายธนวินท์ เปิดเผยว่า เคยถูกดำเนินคดีในข้อหารีดทรัพย์และผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ถูกจำคุก 2 ปี 1 เดือน ได้รับการพักโทษ 11 เดือน พร้อมใส่กำไล EM แต่มามีความผิดอีกทำให้อาจจะต้องกลับไปเข้าเรือนจำอีก จึงไปปรึกษากับหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บอกว่าถ้าในหมู่บ้านมีผู้ที่ต้องถูกควบคุมความประพฤติก็จะทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ จึงเชื่อตามที่กล่าวอ้างว่าสามารถประสานหรือเคลียร์กับทางเจ้าหน้าที่ได้
“ครั้งแรกถูกเรียกเอาเงินสดไป 50,000 บาท อ้างเอาไปจ้างทนายดำเนินการให้ หลังจากนั้นเรียกเงินอีก 500,000 บาท บอกว่าจะนำไปจ่ายให้เจ้าหน้าที่คุมประพฤติและอื่นๆ ซึ่งไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ โดยได้มีการโอนเงินกันหลายครั้ง สรุปรวมได้ให้เงินอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนนี้ไปทั้งหมด 415,000 บาท จากนั้นได้พยายามทวงถามว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า บอกแต่เพียงว่าถ้าไม่มีใครโทรมาก็ไม่ต้องสนใจ ตนจึงตัดสินใจโทรไปถามที่คุมประพฤติ เพื่อสอบถามว่าเรื่องเป็นยังไง เจ้าหน้าที่ตอบว่ายังเหมือนเดิม
เมื่อทราบจากเจ้าหน้าที่ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่าคงถูกหลอกลวงจึงได้ไปทวงเงินคืน ตอนแรกก็ตกลงกันดีว่าขอเวลา 1 เดือนจะคืนเงินให้ พอครบกำหนดไปหาคู่กรณีอีกครั้งถูกบ่ายเบี่ยงอ้างว่าต้องคุยกับคนนั้นคนนี้ตลอด ทำให้ผมได้รับความเดือดร้อน เพราะเงินทั้งหมดผมต้องไปกู้คนอื่นมาและเขาเริ่มทวงแล้ว ล่าสุดเข้าไปทวงถามเริ่มบอกว่า ได้มีการใช้จ่ายเงินไปแล้วบางส่วน แต่สุดท้ายก็ยังไม่ยอมคืนเงิน”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับแจ้งความไว้ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานเรียกคู่กรณีมาสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป