เปิดยุทธการ “CIB ขยี้อิทธิพล” ลุยรวบนายทุนกินป่า ไหวตัวทันหนีรอด เจอ ลุงป้ารุกป่า ปลูกข้าวโพด ที่ แม่เมาะ จ.ลำปาง จับส่งดำเนินคดี

วันที่ 13 ธ.ค.2567 ภายใต้การอำนวยการการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. ร.ต.ท.วสุอนันต์ สารีพันธ์ รอง สว.(ป) กก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ประสานงาน นายประทีป ปัญญาบุตร ผอ.ศูนย์ป้องกัน และปราบปราม ที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ นายเจษฎา เอนกคณา หน.สายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง

อำนวยการโดย นายจีระ ทรงพุฒิ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) นายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ร่วมกันเข้าตรวจสอบหลังจากที่ได้การร้องเรียน ว่ามีกลุ่มนายทุน ว่าจ้างคนไม่หวังดีในพื้นที่ เข้าไปแผ้วถางป่า เพื่อปลูกข้าวโพดแซมในป่า แล้วทยอยตัดต้นไม้ขนาดเล็ก และกานต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ยืนต้นตาย โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำให้ผืนป่าเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

เหตุเกิดที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางตอนขุน ป่าเหนือหมู่บ้าน บ้านปงแท่นหมู่ 1 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งการเข้าพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างลำบากมีเส้นทางเข้าออกเส้นทางเดียวและต้องผ่านหมู่บ้านเท่านั้น โดยมีชุดรถจักรยานยนต์ล่วงหน้าเข้าพื้นที่ไปก่อนแล้วขบวนรถยนต์เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างกระชั้นชิด

เพื่อหวังรวบตัวการให้ได้ แต่เนื่องด้วยสภาพการเข้าถึงพื้นที่ทำให้กลุ่มที่เข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึงเพียงไม่กี่นาที เพราะพบร่องรอยการเผาป่า สร้างกระท่อมและยังมีของใช้หลงเหลือในกระท่อม โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทั้งหมด 4 แปลงโดยแต่ละแปลงพบว่ามีการตัดต้นไม้แผ้วถางและเผาพื้นที่กันบริเวณกว้างภูเขาหายไปเป็นลูกๆ

นอกจากนี้ยังพบว่าป่าใกล้เคียงถูกแผ้วถางโค่นล้มอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดและตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกแผ้วถางพบว่ามีทั้งหมด 91 ไร่ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 6 ล้านบาท จึงตรวจยึดดำเนินคดีทันที พร้อมเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด

แต่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่เชิงเขาใกล้เคียง พบรถกระบะสีแดง ทะเบียนลำปาง จอดซุกอยู่ในแปลงที่ถูกยึด เข้าตรวจสอบพบ สองสามีภรรยา กำลังเก็บผลผลิตข้าวโพด ซึ่งแปลงข้าวโพดอยู่อีกฝั่งกับแปลงที่ตรวจยึด โดยทั้งสองคน ชายอายุ 63 ปี หญิงอายุ 58 ปี ชาวบ้าน ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

ทั้งคู่ให้การว่า เข้ามาทำไร่ข้าวโพดในพื้นที่แห่งนี้ได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว ซึ่งมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดประมาณเกือบ 2 ไร่ หลังจากเสร็จทำนาจึงเข้ามาเก็บผลผลิตข้าวโพด และมาเจอกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติฯ ได้เชิญตัวมาให้การ ที่ศูนย์ป้องกัน และปราบปราม ที่ 3 (ภาคเหนือ) เพื่อตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังและมาเปรียบเทียบในแปลงปัจจุบันเพื่อความเป็นธรรมแก่ ทั้ง 2 คน

เนื่องจากอาจจะเข้าข่ายกรณีให้เกษตรกรเข้าใช้พื้นที่ป่าได้ตามประกาศ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ(ฉบับที่ 4)ปี 2559 และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่าแปลงที่ปลูกข้าวโพดไม่ได้เข้าข่ายยกเว้น เพราะมีร่องรอยทำกินเมื่อประมาณปี 2560 เป็นต้นมาซึ่งเป็นการกระทำผิดกฏหมาย จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.แม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

สำหรับผืนป่าแห่งนี้ถือว่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งเป็นป่าต้นน้ำมีไม้หวงห้าม ไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ชาวบ้านที่รักษาผืนป่าทนไม่ไหวที่กลุ่มทุนเข้ามาว่าจ้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้ามาแผ้วถางป่าแล้วเอาไม้ออกไปและยึดผืนป่าจนป่าเสียหายจำนวนมาก หากไม่ดำเนินการใดๆป่าจะเสื่อมโทรมและจะส่งผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่อีกจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มทุนนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อสาวให้ถึงตัวการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน