กระบะ เสยท้ายรถบรรทุกพ่วง ชนซ้ำซ้อน 3 คัน ไฟลุกท่วม รถพังยับเยิน เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิงวุ่น มีผู้บาดเจ็บ เร่งสอบสวนหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.2567 ร.ต.อ.อาทิตย์ บุตรละคร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนท้ายรถบรรทุก ซ้ำซ้อนกัน 3 คันพลิกคว่ำมีเพลิงลุกไหม้
บนถนนเพชรเกษมทางหลวงหมายเลข 4 ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตร ที่ 311+600 หน้าปั๊มน้ำมัน อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ และรถดับเพลิงเทศบาลเมืองประจวบฯ
กระบะ เสยท้ายรถบรรทุกพ่วง ชนซ้ำซ้อน 3 คัน ไฟลุกท่วม รถพังยับเยิน เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิงวุ่น มีผู้บาดเจ็บ เร่งสอบสวนหาสาเหตุ
ที่เกิดเหตุมีรถชนกันซ้ำซ้อน 3 คัน โดยคันที่ 1 เป็นรถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ ยี่ห้อฮีโน่ สภาพท้ายรถถูกชนได้รับความเสียหาย คนขับชื่อ นายภูเขียว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี คันที่ 2 เป็นรถกระบะตู้ทึบ ทะเบียน นนทบุรี สภาพพลิกตะแคงข้าง คนขับชื่อ นายเพชรนคร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งผู้ขับขี่ทั้ง 2 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ประสงค์ที่จะไปโรงพยาบาล
ส่วนคันที่ 3 เป็นรถบรรทุกหญ้าญี่ปุ่นสำหรับจัดสวน ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กทม. สภาพหน้ารถพังเสียหายยับเยิน และมีเพลิงลุกไหม้เจ้าหน้าที่ได้ประสานรถน้ำดับเพลิงของเทศบาลเมืองประจวบฯ เข้าฉีดน้ำระงับเหตุ และผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบฯ
สาเหตุเบื้องต้นคาดว่า รถกระบะที่วิ่งตามหลังรถบรรทุกมาเบรกไม่อยู่เนื่องจากมีน้ำหนักมาก จึงพุ่งเข้าชนเสยท้ายกัน โดยสาเหตุที่แน่ชัดต้องรอให้ผู้บาดเจ็บรักษาตัวออกจากที่โรงพยาบาลเสร็จก่อนจึงทราบรายละเอียด
เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงได้รับความเสียหายหลายรายการ
