นึกว่ารถเสีย รวบรถตู้ขนแรงงานเถื่อน หลังวิ่งช้าตร.ห่วงคิดว่ารถพังกลับซิ่งหนี แต่ไม่รอด

นึกว่ารถเสีย ตร.ทางหลวงสุพรรณบุรี จะเข้าช่วยเหลือรถตู้วิ่งช้าคิดว่ารถพัง แต่กลับซิ่งหนี สุดท้ายจนมุมไม่รอด พบรับจ้างขนแรงงานต่างด้าวเถื่อนเข้าเมืองเต็มคัน

วันที่ 18 ธ.ค.2567 ร.ต.อ.สมศักดิ์ แย้มทิพย์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 5 นาย ขับรถไล่ล่าจับรถตู้ขนแรงงานต่างด้าว บริเวณถนนหมายเลข 340 สุพรรณบุรีขาเข้ากรุงเทพ ระหว่าง กม.88-90 หลังหลบหนีการตรวจค้นประมาณ 2 กิโลเมตร จนสามารถจับกุมไว้ได้ ตรวจค้นพบคนขับรถตู้ชาวไทยขนชาวต่างด้าวเข้ากทม. 8 ราย

ตำรวจชุดจับกุม เปิดเผยว่า ออกตรวจพื้นที่บริเวณที่รับผิดชอบตามปกติ ระหว่างนั้นพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 1นฉ 7681 กทม. มีลักษณะรถบรรทุกสิ่งของหนัก และมีอาการคล้ายเหมือนรถจะเสีย ด้วยความเป็นห่วง จึงได้เข้าไปสอบถามเพื่อช่วยเหลือ แต่คนขับรถตู้คันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหนี จึงได้วิทยุเพื่อสกัดจับ จากจุดที่พบเจอห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยรถตู้ได้จอดเสียอยู่ข้างทาง จึงได้ขอตรวจค้นตัวคนขับ นายสุชาติ อายุ 35 ปี ชาว จ.ตาก ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายในตัว ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นผู้โดยสารที่อยู่ในรถ เป็นชาย 2 ราย หญิง 6 ราย ท่าทางมีพิรุธ จึงได้ขอดูบัตรประจำตัวประชาชน แต่ทั้งหมดไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน ทราบต่อมาภายหลังว่า เป็นชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติเมียนมา จึงได้ทำการจับกุม

สอบสวน นายสุชาติ คนขับให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางขับรถยนต์ตู้คันดังกล่าว ไปรับบุคคลต่างด้าวที่บริเวณ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดยมีนายจอร์น ชายสัญชาติไทย ติดต่อให้ไปรับ และจะเดินทางไปส่งปลายทางที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมี น.ส.แก้ว หญิงสัญชาติไทย มารอรับบุคคลต่างด้าวอีกทอดหนึ่ง โดยได้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ แต่มาถูกจับกุมที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เสียก่อน นายสุชาติยอมรับว่าได้ลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 40,000 บาท โดยรับค่าจ้างจากผู้จ้างวาน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แจ้งข้อหานายสุชาติคนขับรถตู้ ในข้อหา ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย” ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 8 คน ในข้อหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”และได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง ส่งตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป