มอบตัวแล้ว หนุ่มเผาบ้าน เจ้าหนี้เงินกู้ เสียหายนับล้าน เผย แค้นแทนแม่ หลังรู้ข่าวแม่ถูกคู่กรณีตบระหว่างเดินช่วยผู้สมัคร สจ. หาเสียง สาเหตุจากความเข้าใจผิด
วันที่ 13 ม.ค.2568 นางเพลิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ได้พา นายนัฐวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นลูกชายเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.สุวิทย์ หริรักษ์ สารวัตร สภ.บ้านกุ่ม กรณีนายนัฐวัฒน์ไปเผาบ้านของ นางปรุง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี จนวอดทั้งหลังมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท
โดยทางแม่ได้เกลี้ยกล่อมให้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งลูกชายก็ให้การรับสารภาพกับตน รวมถึงรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายนัฐวัฒน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด โดยจุดแรกที่บ้านเกิดเหตุ และบ้านผู้ต้องหาเพื่อหาพยานหลักฐานก่อนรีบนำตัวกลับ สภ.เกรงจะถูกครอบครัวและญาติผู้เสียหายประชาทัณฑ์
มอบตัวแล้ว หนุ่มเผาบ้าน เจ้าหนี้เงินกู้ เสียหายนับล้าน เผย แค้นแทนแม่ หลังรู้ข่าวแม่ถูกคู่กรณีตบระหว่างเดินช่วยผู้สมัคร สจ. หาเสียง สาเหตุจากความเข้าใจผิด
นางเพลิน กล่าวว่า ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนขณะเดินช่วยผู้สมัคร สจ.หาเสียง ได้ถูกนางปรุงทำร้ายร่างกายตบตีได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเข้าใจผิดคิดว่าตนไปพูดถึงเรื่องอดีตสามีของนางปรุง
นางเพลิน กล่าวต่อว่า ซึ่งตนได้เข้าแจ้งความเรื่องถูกทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้บอกนายนัฐวัฒน์ เพราะว่าเขารักแม่ และเป็นจิตเวช เคยเข้ารับการรักษาอาการนานหลายปี แต่ไม่รู้ว่าลูกชายไปทราบเรื่องได้อย่างไร มาถามแม่ว่าถูกนางปรุงทำร้ายเหรอ ตนปฎิเสธไปว่ารถจักรยานล้มเอง ไม่มีใครทำร้าย
นางเพลิน กล่าวอีกว่า ช่วงบ่ายทราบว่าไฟไหม้บ้านนางปรุง ซึ่งไม่คิดว่าเป็นลูกตนเองที่เป็นผู้ลงมือเผา และก็ทราบมาว่านายนัฐวัฒน์เคยกู้เงินลูกชายนางปรุงด้วยเช่นกัน ไม่ทราบจำนวนเงิน และการติดตามทวงถาม แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นชนวนเหตุความแค้นครั้งนี้ด้วยหรือไม่
ด้าน นางปรุง เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ได้ทะเลาะตบตีกับนางเพลินจริงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ม.ค. ไม่คิดว่าช่วงบ่ายวันที่ 12 ม.ค. จะถูกเผาบ้านจากลูกชายนางเพลินที่แค้นแทนแม่
ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงลูกชายนางปรุงที่ออกเงินกู้กินดอกเบี้ยชาวบ้าน เป็นชนวนสาเหตุด้วยหรือไม่ นางปรุง ไม่ตอบ ทั้งนี้ ในชั้นการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว รวมถึงผู้ต้องหาให้การรับสารภาพนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อย
ในส่วนของการลงมือโดยขาดสติสัมปชัญญะ จากจิตเวชต้องให้แพทย์ได้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมสอบสวนปากคำเพิ่มเติม และจะได้ตัวฝากขังศาลต่อไป
