บุกรวบ 13 ต่างด้าว ขับซาเล้ง ตระเวนเก็บของเก่า กีดขวางการจราจร ยกโทรศัพท์อ้างคนดูแลของเคลียร์ สารภาพเสียค่าดูแลรายเดือนหลายพันบาทต่อคนต่อคัน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 ม.ค.2568 นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี ได้สนธิกำลังร่วมกับ น.ส.อารยา ชัญถาวร จัดหางานจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย นายจเร ซุ้นหั้ว ป้องกันจังหวัดนนทบุรี และ นายวสันต์ ขาวสงค์ ปลัดอำเภอเมืองนนทบุรี และ กอ.รมน.นนทบุรี
นำกำลังเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ขับรถซาเล้ง 3 ล้อ ตระเวนรับซื้อของเก่าภายในพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ในเรื่องกีดขวางการจราจรและหยิบฉวยเอาทรัพย์ต่าง ๆ ที่วางหน้าบ้านพักไป

บุกรวบ 13 ต่างด้าว ขับซาเล้ง ตระเวนเก็บของเก่า กีดขวางการจราจร ยกโทรศัพท์อ้างคนดูแลของเคลียร์ สารภาพเสียค่าดูแลรายเดือนหลายพันบาทต่อคนต่อคัน
โดยเจ้าหน้าที่ชุดปกครองจังหวัดนนทบุรีสามารถจับกุมชาวกัมพูชาได้ทั้งหมด 13 คนเป็นชาย 12 คนหญิง 1 คน มีพาสปอร์ตเป็นนักท่องเที่ยว 3 คน ส่วนที่เหลือไม่มีพาสปอร์ต ทั้งหมดไม่มีใบอนุญาตการทำงาน จึงแจ้งข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท
จากนั้นนำตัวมาสอบสวนที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนนทบุรี ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ตระเวนขับรถซาเล้งสามล้อ ออกรับซื้อของเก่าในพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี จริง โดยหลังจากรับซื้อได้นำมาขายที่ร้านรับซื้อของเก่าในซอยรัตนาธิเบศร์ 8 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซอยข้างศาลากลางจังหวัดนนทบุรี
โดยระหว่างถูกจับกุมแรงงานต่างด้าวได้โทรศัพท์หาคนดูแลเพื่อขอความช่วยเหลือให้ปล่อยจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไม่สนใจควบคุมตัวพร้อมของกลางเป็นรถซาเล้งนำตัวมาทำบันทึกการจับกุมเพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินตามกฎหมายต่อไป
นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่จังหวัด ว่ามีกลุ่มซาเล้งซึ่งคาดว่าเป็นคนต่างด้าว เพราะพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ ต่อมาทางนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี จึงสั่งให้ฝ่ายปกครองบูรณาการร่วมกับจัดหางานจังหวัดนนทบุรี กอ.รมน.นนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ
หลังจากตรวจสอบพบชาวกัมพูชา ขับรถซาเล้งสามล้อตะเวนรับซื้อของเก่าในพื้นที่อำเภอเมืองนนทบุรีเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการจับกุมได้ 13 คนพร้อมกับรถซาเล้งของกลางจำนวน 13 คัน
ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีทั้งหลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายกับมีพาสปอร์ตเดินทางเข้ามา แต่เรื่องของการทำงานชาวกัมพูชาเหล่านี้ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หลังจากนี้จะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.นนทบุรี ผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
โดยเรื่องร้องเรียนที่เข้ามามีทั้งขับรถกีดขวางการจราจรและมีของหายบ่อยครั้ง นอกจากนี้จะสอบไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และลงลึกไปถึงร้านค้าของเก่า ว่าได้มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตาม พ.ร.บ.ค้าของเก่า ชาวกัมพูชาทั้งหมดที่จับได้นี้ เบื้องต้นก็ดีอย่างหนึ่งที่ ตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดในร่างกาย
ส่วนเรื่องที่หลังถูกจับกุมแรงงานต่างด้าวเหล่านี้พยายามโทรหาคนดูแลเพื่อจะติดต่อขอเคลียร์ไม่ให้ถูกจับกุมหรือยึดรถซาเล้งนั้น ตนก็อยากให้โทรมาหาจะได้ทำการสืบสวนต่อว่าแรงงานต่างด้าวเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
น.ส.อารยา ชัญถาวร จัดหางานจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ชาวกัมพูชาทั้งหมดนี้ มีความผิดฐานไม่มีใบอนุญาตทำงาน มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 50,000 บาท แล้วผลักดันออกนอกประเทศ ก็ทำการบันทึกจับกุมแล้วส่งไปให้สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินคดีพร้อมนำตัวส่ง ตม.นนทบุรี เพื่อผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามแรงงานต่างด้าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เนื่องจากเข้ามาทำอาชีพที่ผิดกฎหมาย ทำให้ตนจ่ายเงินให้กับคนดูแลรายเดือน เดือนละหลายพันบาทต่อคนต่อคัน แม้บางเดือนจะมีรายได้ไม่ดีก็ต้องไปหยิบยืมหามาจ่ายเพื่อแลกกับการทำงานตระเวนขี่ซาเล้งเก็บของเก่าไปขายโดยไม่ต้องถูกจับกุมหรือกวดขัน