แก๊งเงินกู้ ดอกเบี้ยมหาโหด ร้อยละ 60 ต่อสัปดาห์ ควงปืนบุกโรงเรียนเอกชนดัง ทวงหนี้ครู ลั่น ไม่กลัวใคร ขู่ยิงให้พิการ ผู้ปกครองผวา วิจารณ์ปมตำรวจแจ้งข้อหา
วันที่ 30 ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแมน (นามสมมติ) ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน หลังถูกแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด โทรศัพท์มาต่อว่าด่าทอ เข้าไปยุ่ง และข่มขู่ จนรู้สึกกลัวจะไม่ปลอดภัย เพียงเพราะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แก๊งเงินกู้ถือปืนบุกเข้ามาทวงหนี้ลูกหนี้ซึ่งเป็นครูภายในโรงเรียน
โดยภาพวงจรปิดเปิดเผยให้เห็นถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ของแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด ร้อยละ 60 ต่อสัปดาห์ ที่พากันบุกเข้าไปในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.น่าน เพื่อทวงเงินจากครูลูกหนี้ ขณะนอนเวรเฝ้าโรงเรียนในตอนกลางคืน แบบไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
แก๊งเงินกู้ ดอกเบี้ยมหาโหด ร้อยละ 60 ต่อสัปดาห์ ควงปืนบุกโรงเรียนเอกชนดัง ทวงหนี้ครู ลั่น ไม่กลัวใคร ขู่ยิงให้พิการ ผู้ปกครองผวา วิจารณ์ปมตำรวจแจ้งข้อหา
ซึ่งในคลิปมีการพูดคุยทวงเงิน จำนวนเงิน 5,000 บาท แต่ลูกหนี้มีเงินเพียง 2,000 บาท และพยายามเจรจาขอชำระเท่าที่มีก่อน แต่ฝ่ายแก๊งเงินกู้ไม่ยอม เดินออกไปที่รถและกลับมาพร้อมปืน และขู่บอกว่าไม่ยิงให้ตาย จะยิงให้พิการ พร้อมประกาศลั่นไม่กลัวใคร และคิดค่าติดตามล่าช้าเพิ่มอีกชั่วโมงละ 300 บาท
และลูกหนี้ขวัญผวาแอบไลน์ขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรด้วยกัน ที่อยู่ชั้น 2 ให้แจ้งตำรวจเข้าช่วยระงับเหตุ สุดท้ายปล่อยแก๊งเงินกู้ไปพร้อมกับให้ยึดรถลูกหนี้เป็นทรัพย์ค้ำประกันด้วย
เจ้าหน้าที่เพื่อนครูลูกหนี้ กล่าวว่า วันเกิดเหตุแก๊งเงินกู้มาทั้งหมด 3 คน ติดตามทวงเงินหนี้จากเพื่อนครู ซึ่งตนได้รับข้อความขอความช่วยเหลือให้แจ้งตำรวจ จึงรีบโทรแจ้งไป 191 ซึ่งไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพูดคุยกันสักพัก ก่อนปล่อยแก๊งเงินกู้ไปพร้อมกับให้ยึดรถยนต์เพื่อนครูลูกหนี้เป็นหลักประกัน
เพื่อนครู กล่าวต่อว่า ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกงงเหมือนกันว่าทำไมไม่มีการจับกุม และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีโทรศัพท์จากแก๊งเงินกู้โทรเข้ามาด่า ข่มขู่ ตนที่เข้าไปยุ่ง โทรไปแจ้งความ ทำให้รู้สึกกลัวจะไม่ปลอดภัย และรู้สึกสงสัยว่าแก๊งเงินกู้รู้เบอร์โทรศัพท์ของตนได้อย่างไร ทั้งที่วันเกิดเหตุตนโทรแจ้งตำรวจ 191
ต่อมาเวลา 20.00 น.ของวันที่ 29 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามและจับกุมเจ้าหนี้มหาโหดดังกล่าว พร้อมเพื่อนที่ไปด้วยกันตามภาพจากกล้องวงจรปิดได้พร้อมอาวุธของกลาง โดยทั้งคู่ปฏิเสธเป็นแก๊งเงินกู้ โดยอ้างว่ารู้จักกันดีกับลูกหนี้ และเป็นการยืมเงินกันเท่านั้น
เจ้าหน้าที่บันทึกเป็นหลักฐาน นำส่ง ร.ต.ท.กิตติพงศ์ ปัญญามูล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองน่าน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีและพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และข่มขู่ได้ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ส่วนข้อหาอื่น ๆ อยู่ในระหว่างการสอบสวน แจ้งข้อหาเพิ่ม ภายหลัง
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ประชาชนต่างวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการตั้งข้อกล่าวหาที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับพฤติกรรมของแก๊งเงินกู้ รู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากชีวิตและทรัพย์สิน
ขณะที่ผู้ปกครองโรงเรียนเอกชนดังกล่าว ก็มีความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์นี้ หวั่นลูก หลานไปเรียนจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากไม่ได้มีครูเพียงคนเดียวที่เป็นหนี้นอกระบบ ดอกมหาโหดนี้ และอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้อีก
