รมว.ทส. ลุยลำพูน สั่งแก้วิกฤตไฟป่า-ฝุ่นควันภาคเหนือ เคร่งครัดใช้กม.เอาผิดคนเผา ทส. พร้อมร่วมชุมชน เฝ้าระวัง PM2.5 – ป้องกันไฟป่า

30 ม.ค. 68 – ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.ลำพูน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเครือข่ายไฟป่า

โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผวจ.ลำพูน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ทส. เจ้าหน้าที่ เครือข่ายชาวบ้าน และนักเรียน เข้าร่วมและให้การต้อนรับ

ดร.เฉลิมชัย เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควันเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก หลังพบจุดความร้อนสะสมสูงสุดใน 5 จังหวัด ได้แก่ ตาก กาญจนบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์และชัยภูมิ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดับไฟ พร้อมกำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดหากพบการเผา และเน้นย้ำให้ทำความเข้าใจกับชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ในท้องที่ให้ร่วมกันเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดไฟป่า

ทั้งนี้ตนขอชื่นชมในความเสียสละ ทุ่มเท และความมุ่งมั่นของทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจอันสำคัญโดยเน้นย้ำให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ยืนยันว่ากระทรวงฯ จะให้การสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่

ด้านนายอรรถพล เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้มีการสั่งเตรียมพร้อมรับมือไฟป่า ภายใต้แนวทาง “รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด” ตามนโยบายของ รมว.ทส. โดยได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า แบ่งการบริหารจัดการเป็น 14 กลุ่มป่า ครอบคลุมพื้นที่ป่ารวม 44.71 ล้านไร่ มีเป้าหมายลดพื้นที่เผาไหม้ลงร้อยละ 25 จากปี 2567

โดยเฉพาะในกลุ่มป่าเขื่อนภูมิพล ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดตาก เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีเนื้อที่รวม 3.38 ล้านไร่ ได้จัดตั้งจุดเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง 2,059 จุด จัดชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เสือไฟ) 15 ชุด กำลังพล 345 นาย พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติจำนวน 1,690 หมู่บ้าน และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการติดตามสถานการณ์ไฟป่าทั้งอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และระบบติดตามจุดความร้อน (Hotspot) ผ่านดาวเทียม

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันไฟป่าของชาวบ้านในเขตอุทยานแม่ปิง ได้พัฒนาระบบการป้องกันไฟป่าแบบมีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง โดยจัดตั้งเครือข่ายชุมชนเฝ้าระวังไฟป่า มีการจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด 24 ชม. สร้างแนวกันไฟสีเขียว โดยชุมชนร่วมกันปลูกพืชที่มีความชื้นสูง พัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการจัดการเชื้อเพลิง

ในวันเดียวกัน ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ การป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กลุ่มป่าเขื่อนภูมิพล ระหว่างอุทยานแม่ปิง ร่วมกับชุมชนทั้งในและรอบพื้นที่อุทยานแม่ปิง 21 หมู่บ้าน โดยมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ดูแลพื้นที่เสี่ยง ร่วมประชุมวางแผนและปฏิบัติการดับไฟป่า รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากไฟป่าแก่ประชาชนในพื้นที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน