หนองคาย สนธิกำลัง จับกุม 3 ผู้ต้องหา ขนยาบ้า 2,400,000 เม็ด ข้ามแม่น้ำโขง มูลค่า 120 ล้านบาท แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ไทย-ลาว แจ้งยอด 4 เดือน ยึดยาเสพติด 60 ล้านเม็ด
4 ก.พ. 68 – ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองบังคับการควบคุมที่ 2 (ร.13) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2
พลเรือตรีณรงค์ เอมดี ผบ.นรข., พ.ต.อ.จามร อันดี รองผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.ธนกร พัฒนนันแก้ว ผกก.สภ.โพนพิสัย, พ.ต.วิทยา สิงห์อ่อน ผบ.ร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2104, นายถาวร สังขะมาน นายอำเภอโพนพิสัย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรวจคนเข้าเมือง
ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดรายใหญ่ ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายเอ นามสมมติ อายุ 16 ปี, นายภูวดล ทุ่งเชียงเทียน, นายวรโชติ เวียงสิงห์กอ ทั้ง 3 คน เป็นชาว จ.เลย พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ 2,400,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท และเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ 1 ลำ
พันตรีวิทยา กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ บริเวณป่าช้าบ้านเวิน อ.โพนพิสัย จึงสนธิกำลังหน่วยงาน จัดกำลังเข้าตรวจสอบ จนกระทั่งเวลา 02.30 น. วันที่ 3 ก.พ. 68 พบเรือหางยาวข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาจอดเทียบท่าใกล้กับจุดที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่
จากนั้นมีรถยนต์เก๋งไม่ทราบทะเบียน ขับเข้ามา มีชายฉกรรจ์ 5 คนลงจากรถ มาช่วยกันขนกระสอบสีดำ ขึ้นจากเรือวางไว้ริมตลิ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม กลุ่มชายฉกรรจ์ต่างวิ่งหนีกระเจิงไปคนละทิศละทาง
ในที่เกิดเหตุจับกุมนายเอ เยาวชน อายุ 16 ปี ไว้ได้ ส่วนรถเก๋งคาดว่า มีคนขับรออยู่บนรถพอเห็นท่าไม่ดี จึงขับรถออกจากที่เกิดเหตุหลบหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้อีก 2 คน หลบหนีอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ และวิ่งหลบหนีเข้าโรงพยาบาลโพนพิสัย ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวแล้ว คาดว่าจะติดตามจับกุมได้ในเร็ว ๆ นี้
เบื้องต้นทั้งหมดให้การว่า ขับรถเก๋งมาด้วยกัน 6 คน จาก จ.เลย จะมารับยาบ้าบริเวณดังกล่าว เมื่อได้ยาบ้าแล้ว จะนำขึ้นรถเก๋ง แล้วจะมีคนแจ้งให้นำยาบ้าไปส่ง แต่ยังไม่ทราบปลายทางที่แน่ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะได้ติดตามจับกุมผู้ที่ยังหลบหนีอีก 3 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านพลโทบุญสิน กล่าวว่า ในห้วง 4 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคที่ 2 มีการจับกุมยาบ้าไปแล้ว 60 ล้านเม็ด ซึ่งรัฐบาล กองทัพบก และหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด
หลังจากนี้ก็จะมีการบูรณาการ เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานขึ้นอีก เนื่องจากขบวนการค้ายาเสพติดยังมีความพยายามลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สามอย่างต่อเนื่อง
