จับแล้ว หนุ่ม18 รัดคอ-แทง 5 แผลตัดขั้วหัวใจ เซลล์ขายรถ เปิดปากสารภาพอ้าง ไม่พอใจถูกถ่ายคลิปขณะบรรเลงเพลงรัก ก่อนหนีซ่อนตัวที่บ้าน
จากกรณี นายฮิลมี (ขอสงวนนามสกุล) 25 ปี ซึ่งเป็นเซลล์จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ถูกคนร้ายใช้มีดแทงหน้าอกซ้ายตัดขั้วหัวใจ 2 แผล หน้าท้อง 2 แผล และชายโครงซ้าย 1 แผล รวม 5 จุด นอนเสียชีวิตภายในรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน เบตง เหตุเกิดบริเวณไหล่ทางในพื้นที่บ้านบาโย ม.8 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ เมื่อเวลา 21.30 น.ของวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดวันที่ 12 ก.พ.2568 พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผกก.สภ.ระแงะ พร้อมด้วย ร.ต.ท.ศรศิลป์ กิจวงศ์วัฒนา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ระแงะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัว นายอับดุลเลาะห์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
จับแล้ว หนุ่ม18 รัดคอ-แทง 5 แผลตัดขั้วหัวใจ เซลล์ขายรถ เปิดปากสารภาพอ้าง ไม่พอใจถูกถ่ายคลิปขณะบรรเลงเพลงรัก ก่อนหนีซ่อนตัวที่บ้าน
เนื่องจากมีผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ โดยนายอับดุลเลาะห์นั้น ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่ารัดคอและใช้มีดแทงนายฮิลมีเสียชีวิตจริง จากเหตุไม่พอใจที่นายฮิลมี ใช้โทรศัพท์มือถืออัดคลิปไว้ในขณะที่ตนมีเพศสัมพันธ์กับนายฮิลมี
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนที่จะขออนุมัติศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอับดุลเลาะห์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จำนวน 3 จุด คือ จุดที่ 1.ที่บริเวณริมถนนเป็นจุดที่นายฮิลมีจอดรถยนต์คุยกับผู้ก่อเหตุที่นั่งโดยสารมาด้วยที่เบาะหน้าคู่กับคนขับ
แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องให้ผู้ตายลบคลิปที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ จนมีการโต้เถียงกันและเท้าผู้ตายได้ไปเหยียบคันเร่งจนรถเสียหลักตกไปในไหล่ทาง
จุดที่ 2.บริเวณไหล่ถนนซึ่งเป็นจุดที่รถยนต์เก๋งได้เสียหลักไหลลงมา ซึ่งจุดนี้ผู้ก่อเหตุได้ใช้เชือกไนลอนรัดคอผู้ตายจนหมดสติ หลังจากนั้นได้ใช้มีดปอกผลไม้จวงแทงผู้ตาย จำนวน 5 ครั้ง ที่บริเวณหน้าอกตัดขั้วหัวใจ หน้าท้องและซี่โครงซ้าย จนผู้ตายเสียชีวิต
จากนั้น ผู้ก่อเหตุจึงได้แกะเชือกที่รัดคอทิ้งไว้ข้างรถ พร้อมถอดกล้องวงจรปิดภายในรถ และมีดที่ใช้แทงผู้ตายวิ่งหลบหนีไปในป่าละเมาะที่รกทึบ เพื่อใช้ถนนคอนกรีตที่เป็นเส้นคู่ขนานกับเส้นทางหลักหลบหนี
จุดที่ 3 บริเวณหนองน้ำในป่าเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุวิ่งตกลงไปในหนองน้ำ ซึ่งลึกประมาณ 1 เมตร ทำให้มีดที่ใช้แทงผู้ตายหล่นหลุดออกจากมือ จากนั้นผู้ก่อเหตุพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากหนองน้ำ แล้ววิ่งหลบหนีไปทางถนนคอนกรีต ก่อนเดินลัดเลาะไปหลบซ่อนตัวที่บ้านพัก
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการงมหามีดในหนองน้ำดังกล่าว เพื่อใช้เป็นหลักฐานในคดี แต่เจ้าหน้าที่ยังพบ จึงนำตัวนายอับดุลเลาะห์กลับไปยัง สภ.ระแงะ เพื่อทำการสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งเป็นกระบวนการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบคำรับสารภาพ
อย่างไรก็ตาม ในการจัดทำแผนประกอบคำรับสารภาพครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุได้ทำการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นภาษายาวีท้องถิ่น โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด
