เมื่อวันที่ 14 เม.ย. พ.ต.ต.หนิม พลชม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้าเกิดไฟลุกไหม้ บริเวณสี่แยกสถาบันการพลศึกษา เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองหนองสำโรง เทศบาลนครอุดรธานี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กต3426 สกลนคร ชนเสาไฟสัญญาณจราจรเกิดไฟลุกไหม้รถทั้งคัน พลเมืองดีช่วยนำตัวออกมาจากรถพบเป็นชาย 1 คน และหญิง 2 คน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวหญิงทั้ง 2 คน ที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ก่อนช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถควบเพลิงไว้ได้ แต่รถได้ไหม้เสียหายไปทั้งคัน
ใกล้กันพบรถเก๋ง ยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กจ9176 อุดรธานี สภาพด้านหน้าพังยับเยิน คนขับชื่อนายสิริพิเดช เกตุจอย อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 26/56 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ยืนอยู่ข้างรถด้วยอาการตกใจ พร้อมให้การว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง หลังออกเวรแล้วจะไปหาเพื่อนร่วมงานเพื่อไปรับประทานอาหารกันที่บ้านวัวฆ้อง ห่างที่เกิดเหตุไป 3 กิโลเมตร
นายสิริพิเดช กล่าวต่อว่า ถึงที่เกิดเหตุสัญญาณไฟเป็นไฟเขียว ตนจึงเร่งความเร็วขณะที่จะพ้นแยกดังกล่าว ได้มีรถเก๋งอีกคันซึ่งมาจากทางบายพาสหนองบัวลำภู ขับพุ่งชนด้านซ้ายของรถตน ทำให้รถตนหมุนไปชนเข้ากับขอบปูนข้างทาง ส่วนรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนเสาไฟสัญญาณจราจร เมื่อรถจอดสนิท จึงรีบลงจากรถเนื่องจากมีควันพุ่งออกมาที่ด้านหน้ารถ ส่วนที่รถเก๋งอีกคันก็เกิดไฟลุกขึ้นมา ตนและพลเมืองดีที่อยู่ใกล้วิ่งเข้าไปช่วยดึงคนในรถออกมาได้ ทั้งหมด 3 คน เป็นชาย 1 คน และอีก 2 คนซึ่งได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล
ด้าน พ.ต.ต.หนิม เปิดเผยว่า จากการสอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์และสอบปากคำนายสิริพิเดชเบื้องต้นคาดว่า รถเก๋งที่ถูกไฟไหม้ อาจจะฝ่าไฟแดงมาชนเข้ากับรถยนต์ของนายสิริพิเดช แล้วเกิดเสียหลักไปชนเข้ากับเสาสัญญาณไฟจราจรและรถก็เกิดไฟไหม้ขึ้น ซึ่งรถที่ถูกไฟไหม้มีคนที่โดยสารมารวม 3 คน บาดเจ็บ 2 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
