เปิดใจ ลุงเปี๊ยก เล่าสาเหตุ คลั่งรัวหมัด ถีบพยาบาล-ผู้ช่วย กลางรพ.ดัง เผย ทำไมมาหาหมอ ลั่น “ผมกลัวตาย” อ้าง 3 วันที่แล้วก็มีคนเสียชีวิตเพราะถูกทำแบบนี้
จากกรณี นายทองลี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ชาวอ.หนองหาน จ.อุดรธานี เกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และพยาบาลของโรงพยาบาลหนองหาน บาดเจ็บ 3 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 17 มี.ค.2568 นายทองลี หรือ ลุงเปี๊ยก (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุทำร้ายพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหนองหาน กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนเป็นโรคหอบหืด ยาหมด เลยเรียกกู้ชีพอบต.พังงูเพื่อไปรับยาที่โรงพยาบาลหนองหาน
เปิดใจ ลุงเปี๊ยก เล่าสาเหตุ คลั่งรัวหมัด-ถีบพยาบาล-ผู้ช่วย กลางโรงพยาบาลดัง เผย ทำไมมาหาหมอ ลั่น “ผมกลัวตาย” อ้าง 3 วันที่แล้วก็มีคนเสียชีวิตเพราะถูกทำแบบนี้
แต่ปรากฏว่า รถฉุกเฉินโรงพยาบาลมารับ ตนก็บอกไปว่า อาการไม่หนักแค่อยากไปรับยา แต่เจ้าหน้าที่พาตนไปห้องไอซียู ตนก็บอกพยาบาลว่าอาการไม่หนัก แค่จะมารับยาเท่านั้น โดยย้ำแล้วย้ำเล่า แต่พยาบาลยังดันแหย่เครื่องช่วยหายใจที่คอของตน
ทำให้ตนเกิดความกลัว จึงฟึดฟัดไม่ยอม และพยายามลุกจากเตียง ใช้มือเท้าฟาดไปทั่วเพราะกลัวตายจริง ๆ ยอมรับถีบหน้าอกพยาบาลหลายคน และยอมรับอีกว่า ตนก็เมาด้วยเช่นกัน กินในงานบุญที่บ้าน
เรื่องที่เกิดขึ้นอยากขอโทษพยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคน อาจจะสื่อสารกันผิด ตนแค่อยากไปเอายา แต่พยาบาลเอาตนไปนอนแล้วใส่เครื่องช่วยหายใจ ทั้ง ๆ ที่ตนบอกแล้วว่า ไม่ได้เป็นอะไรมาก ขอโทษ สิ่งที่ทำไปเพราะกลัวตายโดนเครื่องช่วยหายใจแหย่คอ เพราะที่บ้าน 3 วันที่แล้วก็มีคนตายเพราะแหย่คอแล้ว 1 คน
ด้าน นายกุชเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี น้องชายของนายทองลี กล่าวว่า ตนในฐานะน้องชายก็อยากจะขอโทษพยาบาลแทนพี่ชายด้วย ยอมรับวันนั้นพี่ชายดื่มเครื่องดื่มทำให้โรคหอบหืดขึ้น จึงไปหาหมอ ส่วนเรื่องทำร้ายพยาบาลและเจ้าหน้าที่ ตนไม่รู้เพราะไปถึงก็เวลา 01.00 น. เห็นเจ้าหน้าที่มัดพี่ชายกับเตียงแล้ว ก็อยากจะขอโทษพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่พี่ชายทำแบบนี้
ต่อมา ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้วิดีโอสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับ นายทองลี โดยนายทองลีเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ ดร.ธนกฤต ฟังว่า ตนแค่ไปขอยาหอบหืด
แต่พยาบาลเอาตนขึ้นเตียงยัดเครื่องช่วยหายใจ ตนกลัวตายก็เลยต้องอาละวาด แต่ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายร่างกายพยาบาลและเจ้าหน้าที่ แค่อยากจะลุกหนีจากเตียงเท่านั้น เรื่องที่เกิดขึ้นขอโทษ
จากนั้น ดร.ธนกฤต ได้แนะนำให้ลุงเปี๊ยกไปพบกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีเพื่อให้ไปอธิบายให้ทางนายแพทย์ ฟังว่าทำไมถึงก่อเหตุแบบนี้
ขณะที่ น.ส.หนิง (นามสมมติ) อายุ 26 ปี พยาบาล ผู้เสียหายที่ถูกถีบหน้าอกและใบหน้า กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็กลัว เคยเห็นแต่ข่าวแต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตน วันนั้นผู้ป่วยมีอาการหนักเป็นโรคหอบหืด จึงต้องนำเครื่องช่วยหายใจสายให้อาหาร (NG tube) สายสวนปัสสาวะและสายน้ำเกลือ
แต่ปรากฏว่า ลุงท่านนี้มีอาการคลั่งที่เกิดจากความเมาแล้วโวยวายพยายามถอดเครื่องหายใจออกและสายอื่น ๆ ออก พยาบาลได้ไปขอร้องให้ใส่ไว้ไม่งั้นจะหายใจลำบาก แต่ปรากฏว่าลุงโวยวายพยายามลุกจากเตียง
พยาบาลก็เข้าไปขอร้องแต่ถูกลุงใช้ทั้งเท้าและหมัดรัวใส่พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลบาดเจ็บ 3 คน อาการบาดเจ็บตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ยังบวมอยู่ พวกเราก็อยากให้คนไข้เข้าใจ ไม่อยากให้เรื่องเกิดขึ้นแบบนี้ ส่วนเรื่องแจ้งความหรือไม่นั้น รอผู้บริหารตัดสินอีกทีหนึ่ง
