ผัวคลั่ง ทะเลาะเมีย สาดกระสุนใส่ปางตาย ก่อนอุ้มขึ้นรถ ขับหนีข้ามจังหวัดกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อน เผย คำพูดสุดสะเทือนใจ หลังฝ่ายหญิงวิดีโอคอลมาหาน้ำตาคลอ
วันที่ 19 เม.ย.2568 ร.ต.อ.พุทธรักษ์ สอนคําหาร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน ภายในห้องแถวแห่งหนึ่ง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจสายตรวจ และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.)
ที่เกิดเหตุพบเพียงรอยคราบเลือดอยู่ที่พื้นหน้าห้องแถว และพบปลอกกระสุน ขนาด 11 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 5 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยมี นายปรีชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ยืนรอให้การกับตำรวจ
ผัวคลั่ง ทะเลาะเมีย สาดกระสุนใส่ปางตาย ก่อนอุ้มขึ้นรถ ขับหนีข้ามจังหวัดกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อน เผย คำพูดสุดสะเทือนใจ หลังฝ่ายหญิงวิดีโอคอลมาหาน้ำตาคลอ
นายปรีชา กล่าวว่า เมื่อเวลาเกือบ 19.00 น. ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านว่า ให้รีบกลับมาที่ห้องเช่าด่วน เพราะได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันจำนวนหลายนัด และมีเสียงผู้หญิงขอความช่วยเหลือ จึงรีบขี่รถกลับมาดู
นายปรีชา กล่าวต่อว่า แต่พอตนมาถึง ก็พบว่าลูกสาว คือ น.ส.ธิดาพร หรือ สมาย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี อาชีพขายมะม่วงกับดอกไม้ในตลาด ได้หายตัวไปพร้อมกับรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน ทะเบียน ชลบุรี อีกทั้งยังพบกองเลือดและปลอกกระสุนปืนตกอยู่เกลื้อนพื้น
นายปรีชา กล่าวอีกว่า ตอนนั้นคิดว่า คงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกสาวแน่ ๆ และเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของลูกเขย ชื่อว่า นายครัช อายุ 28-30 ปี ซึ่งคบหากับลูกสาวของตนได้ประมาณ 1 ปี โดยก่อนหน้านี้ลูกสาวพยายามบอกเลิกและตีตัวออกห่าง เพราะลูกเขยรายนี้มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่ช่วยลูกสาวทำมาหากิน
นายปรีชา กล่าวด้วยว่า โดยลูกสาวเพิ่งจะส่งตัวลูกเขยให้กลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.กาญจนบุรี แต่จู่ ๆ วันนี้ ทั้งคู่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันอีก จนมาเกิดเรื่องดังกล่าว
ด้าน น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 32 ปี เพื่อนรุ่นพี่สนิทกับน.ส.ธิดาพร ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ธิดาพรได้นำลูกสาวมาฝากตนเลี้ยง จนช่วงเวลา 19.35 น. น.ส.ธิดาพรได้วิดีโอคอลผ่านเฟซบุ๊กมาหาตน โดยพูดในน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ขอเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายหน่อย”
น.ส.แนน กล่าวต่อว่า ตอนนั้นยอมรับว่าช็อกมาก เพราะอะไรน.ส.ธิดาพรถึงพูดแบบนั้น จึงหันกล้องไปให้ดูหน้าลูกสาวของ ซึ่งมีบางช่วงน.ส.ธิดาพรพยายามหันกล้องให้เห็นหน้าสามีของเธอ ซึ่งอยู่ในสีหน้าคล้ายคนกำลังคลุ้มคลั่ง พอวางสายจากน.ส.ธิดาพร ตนก็รีบเดินทางมาบอกพ่อของน.ส.ธิดาพรทันที
ด้าน นายสุที (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี เพื่อนบ้านใกล้กับจุดเกิดเหตุ และเห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ช่วงเวลา 18.30 น. ได้ยิงเสียงปืนดังสนั่นหลายนัดติดต่อกัน น่าจะมี 5-6 นัด ก่อนจะมีเสียงผู้หญิงกำลังส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ บางช่วงก็ได้ยินผู้หญิงพูดร้องขอชีวิตอย่างน่าเวทนา
นายสุที กล่าวต่อว่า จึงชะโงกหน้าไปดู พบว่า ผู้หญิงถูกยิงจมกองเลือด ส่วนผู้ก่อเหตุ เป็นผู้ชาย คาดว่าน่าจะเป็นสามี ในมือถือปืนไว้ตลอดเวลา จากนั้นฝ่ายชายได้อุ้มร่างผู้หญิงขึ้นรถกระบะ 4 ประตู สีส้ม แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิด และเป็นหลักฐานสำคัญ โดยพบว่าช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. น.ส.ธิดาพรมีปากเสียงกันกับนายครัช ผู้เป็นสามี จนฝ่ายหญิงมีการพูดในทำนองว่า “มึงทำอะไร มึงรู้ไหมกูทำงานหาเงิน มันเหนื่อยแค่ไหน” ก่อนที่นายครัชจะเดินมานั่งหน้าห้อง
จากนั้น น.ส.ธิดาพรพยายามเดินเข้าไปหา นายครัชก็ชักอาวุธปืนยิงใส่พื้น 1 นัด ก่อนจะหันกระบอกปืนจ่อยิงขาน.ส.ธิดาพร 1 นัด จนล้มไปกองกับพื้น ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร
จากนั้น นายครัชก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ถือปืนปัดแกว่งไปมา และลั่นไกทั้งจ่อยิง และยิงขู่ น.ส.ธิดาพรอีก 3 นัด บางช่วงจะเห็นว่า นายครัชใช้ปืนจ่อขมับตัวเอง หลายครั้ง ก่อนอุ้มน.ส.ธิดาพรขึ้นรถกระบะแล้วขับออกไป
ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองพัทยา มีการสกัดจับรถคันดังกล่าว แต่ก็ไร้วี่แวว ล่าสุดช่วงเวลา 22.10 น. นายครัชยอมปล่อยตัวน.ส.ธิดาพรไปหาโรงพยาบาลแล้ว โดยเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลพนมทวน จ.กาญจนบุรี ห่างจากเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระยะทางรวม 262 กิโลเมตร
โดยถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขาซ้าย และยังอยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิด เนื่องจากเจ้าตัวมีการหวาดกลัวตลอดเวลา ขณะที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับนายครัชมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
