ตำรวจบุกจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจสุดในภาค 9 มี 9 หมายจับ ในพื้นที่ 4 จังหวัดทั้งคดีฆ่า คดียา ขนทั้งปืน-ระเบิด พาเมียเข้ารีสอร์ต ลั่นถ้าเมียไม่กล่อมขอสู้ตาย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 เม.ย.2568 ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำทีมโดยชุดสืบสวน บก.สส.ภาค 9 พร้อมกำลังตำรวจกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี
ฝ่ายสืบสวน สภ.ไชยา ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง และชุดสืบสวน ภ.จว.พัทลุง ร่วมกันเข้าปิดล้อม รีสอร์ตในพื้นที่ ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจับกุม นายธนวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี มือปืนอันดับ 1 ซึ่งมีประวัติก่อคดีโชกโชนของภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมายจับ ทั้งคดีฆ่า หนีศาล รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้านและค้ายาเสพติด
โดยเจ้าหน้าที่ตามสะกดรอยมาจากพื้นที่ จ.ตรัง ตั้งแต่เที่ยงคืนวานนี้หลังสืบทราบว่า ขับรถเก๋งมากับภรรยาแล้วเข้าพักที่รีสอร์ตแห่งนี้เพื่อมาทวงเงินค่ายาเสพติดจากนักค้ายาในพื้นที่ จึงวางแผนเข้าปิดล้อมจับกุม ซึ่งตำรวจเตรียมพร้อมทั้งกำลังและอาวุธครบมือ เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้มีอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลาและอาจต่อสู้ขัดขืน
เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อม ก่อนประกาศให้ออกมามอบตัว แต่นายธนวัฒน์ ยังปิดประตูเงียบต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมง จนกระทั่งยอมเดินออกมามอบตัว แต่โดยดี โดยมีภรรยาช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวอย่าต่อสู้ขัดขืน ซึ่งเจ้าตัวยังบอกด้วยว่า ถ้าไม่ติดว่ามีเมียมาด้วยและพูดเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัวจะขอสู้ตาย เพราะเมื่อเช้าเพิ่งดูคลิปตำรวจชุดนี้ไปจับบังแอ มือปืนอันดับ 93 บนเขาอ.ปะเหลียน จ.ตรัง เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นห้องพัก พบระเบิดขว้างชนิด M26 สภาพพร้อมใช้งาน อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 พร้อมกระสุน อาวุธปืนยาวลูกกรด 1 กระบอก พร้อมกระสุน อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุน นำตัวไปสอบสวนขยายผลก่อนส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคดีสำคัญที่ นายธนวัฒน์ เคยก่อเหตุ โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2566 ยกพวก 6 คนบุกไปทวงหนี้ 3 ล้าน และยิงนายทนงค์ศักดิ์ พ่อค้าทุเรียนเสียชีวิตต่อหน้าภรรยาที่บ้านพักในพื้นที่ ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
ต่อมาวันที่ 12 มี.ค. 2567 ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.สกุลรัตน์ อายุ 35 ปี เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ริมถนนสายวังอ่าง-บ้านพร้าว ต.วังอ่าง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่ตัวเองก็เคยถูกคู่อริบุกยิงเข้าที่ปากจนฟันหัก 9 ซี่ในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ แต่รอดชีวิตมาได้
